เกิดอะไรขึ้นบ้าง?
แมนฯ ซิตี้ ของกุนซือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เกมนี้ยังไม่สามารถใช้งานกองหน้าธรรมชาติทั้ง เซร์คิโอ อเกวโร่ และ กาเบรียล เชซุส ได้ โดย 3 แนวรุกใช้ ราฮีม สเตอร์ลิง, ริยาด มาห์เรซ แล้วให้ แฟร์ราน ตอร์เรส ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า โดยมี เควิน เดอ บรอยน์ คอยปั้นเกมอยู่ด้านหลัง
ครึ่งแรกเปิดฉากมา แมนฯ ซิตี้ ขึงบุกใส่ก่อนตามคาด และมาได้ลุ้นขึ้นนำในนาทีที่ 7 ชูเอา กานเซโล่ เติมขึ้นมาเปิดจากริมเส้นฝั่งซ้ายเข้าเขตโทษให้ แฟร์ราน ตอร์เรส โฉบมาโขกเปลี่ยนทาง แต่ แอรอน แรมส์เดล พุ่งเซฟออกไปหวุดหวิด
จนกระทั่ง นาที 28 แมนซิตี้ จะได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ เควิน เดอ บรอยน์ จ่ายบอลจากริมเส้นฝั่งซ้ายให้ ไคล์ วอล์คเกอร์ วิ่งมากดเรียดด้วยขวานอกเขตโทษบอลพุ่งเสียบเสาแรกเข้าไปอย่างสวยงาม
หลังจากนั้น เชฟฟิลด์ มีโอกาสตอบโต้มาบ้าง ได้ลุ้นตีเสมอจากจังหวะเตะมุมทางฝั่งซ้ายบอลมาเข้าหัว คริส บาแชม ได้ตั้งหัวโขกบอล แต้มไปหืดจับ ไปแฉลบ วอล์คเกอร์ ออกหลังไปนิดเดียว ในนาที 35 ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบครึ่งแรก แมนฯ ซิตี้ นำ เชฟฟิลด์ 1-0
ครึ่งหลังเกมดำเนินมาถึง นาที 55 แมนซิตี้ เกือบได้ลูกสอง ไคลน์ วอล์คเกอร์ ลากไปถึงสุดเส้นหลังแล้วตบเข้าเขตโทษให้ เดอ บรอยน์ วิ่งมาซัดจ่อๆบอลเฉี่ยวเสาไกลออกไปนิดเดียว
จากนั้น นาที 58 ทีมเยือนเกือบขึ้นนำอีกครั้งจากจังหวะฟรีคิกหน้าเขตโทษเยื้องไปทางขวา ก่อนจะเป็น ริยาด มาห์เรซ บรรจงปั่นไปเสาไกลแต่ แอรอน แรมส์เดล บินปัดออกไปได้อีกครั้ง
เชฟฟิลด์ มีโอกาสสวนกลับมาบ้างและเกือบได้ประตูตีเสมอเมื่อ ซานเดอร์ เบิร์ก เติมขึ้นมาทางกราบขวาแล้วจ่ายเรียดเข้ากลางให้ จอห์น ลุนด์สตรัม วิ่งมากดด้วยขวาหน้าเขตโทษบอลเหินข้ามคานออกไปแบบได้ลุ้น ในนาที 70
เวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม แมนฯ ซิตี้ บุกชนะ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 1-0