เบลเยียมจบในตำแหน่งแชมป์กลุ่มจี ตามมาด้วยอังกฤษ หลังจากได้ประตูชัย 1-0 จากอัดนาน ยานาไซ
แวงซอง กอมปานี กัปตันซิตี้ลงมาเล่นในช่วง 15 นาทีสุดท้าย คัมแบ็คมาจากอาการบาดเจ็บเป็นที่เรียบร้อย ทางด้านจอห์น สโตนส์ ก็ลงเล่นไปเพียงแค่ครึ่งเดียวเพื่อให้ได้พัก เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บที่น่องเล็กน้อย
ขณะที่ญี่ปุ่นกลายเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ที่ผ่านเข้ารอบมาด้วยกฏแฟร์เพลย์ หลังจากพวกเขาจบที่คะแนนและผลต่างประตูได้เสียเท่ากับเซเนกัลทุกประการ แต่ตัวแทนจากเอเชียนั้นได้รับใบเหลืองน้อยกว่าทางเซเนกัล
อีกคู่ในกลุ่มเอช โคลัมเบีย ชนะเซเนกัล 1-0 และพวกเขาก็จบเป็นอันดับ 1 ของกลุ่ม โดยเบลเยียมจะเข้าไปเจอกับญี่ปุ่นรอบ 16 ทีมสุดท้ายที่รอสตอฟในวันจันทร์ และอะงกฤษจะเจอกับโคลัมเบียในวันอังคารตามลำดับ
โดยในวันนี้จะพักการแข่งขัน 1 วันหลังจากที่เตะกันมาอย่างดุเดือดในช่วยสองสัปดาห์ที่ผ่านมา มาดูในคู่ที่จะเริ่มเตะก่อนในรอบ 16 ทีมสุดท้าย มีดังต่อไปนี้
ฝรั่งเศสจะเล่นกับอาร์เจนติน่าที่คาซาน ในเวลา 21.00 น. เบนจามิน เมนดี้ ที่ได้ลงในช่วงครึ่งหลังในแมตซ์กับเดนมาร์ก อาจจะได้ลงในเกมนี้ และอเกวโร่กับโอตาเมนดี้ ก็จะเป็นส่วนสำคัญของทัพฟ้าขาว อาร์เจนติน่าเช่นกัน
และเกมในช่วงดึกอีกคู่ได้แก่อุรุกวัยจะพบกับโปรตุเกสของแบร์นาโด ซิลวา ถือเป็น 2 คู่ที่น่าตื่นตาตื่นใจสมกับเป็นแมตซ์ประเดิมรอบ 16 ทีมสุดท้ายในสุดสัปดาห์นี้จริงๆ