บทสรุปจากการเผชิญหน้าในแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ครั้งที่ 172

สิ่งหนึ่งที่ไม่ต้องมีใครมายืนยันก็คือ  ชัยชนะของทัพกวาร์ดิโอล่าที่มีเหนือทัพมูรินโญ่ในศึกแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ แมตช์ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรือโชคช่วยแน่ๆ

การกำราบปีศาจแดง 2-1 และการเก็บสามแต้มออกจากโอลด์ แทรฟฟอร์ด นำความสุขและเกียรติยศมาให้พวกเราชาวเรือใบสีฟ้า

สยามสปอร์ตยกย่องเป๊ป

จากคอลัมน์ห้าประเด็นร้อนหลังเกมแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ สยามสปอร์ตได้ระบุว่าเป๊ปได้สร้างระบบบอลที่แท้จริงให้แมนซิตี้ ด้วยการใช้ปรัชญาการเล่นบอลสไตล์เป๊ปที่เน้นครองเกมให้มากที่สุด ต่อบอลด้วยการชิ่งบอลสั้นๆ ส่วนนักเตะที่ไม่มีบอลก็จะต้องวิ่งสู้ฟัดหาพื้นที่อยู่ตลอด

นัดนี้แมนซิตี้ไม่ได้พึ่งพาผู้เล่นคนใดคนหนึ่ง ตรงข้ามกับแมนยูที่หวังพึ่งอิบราฮิโมวิชและป็อกบา

สยามสปอร์ตชื่นชมแมนซิตี้ที่ไม่มีเซอร์จิโอ้ อาเกวโร่ในนัดนี้แต่ก็ได้มีระบบที่แข็งแกร่งทำให้สร้างทีมที่ยอดเยี่ยมมาได้ ...

สำหรับสื่อผู้ดีให้ความเห็นกันมากมายว่าดาร์บี้นัดนี้คือหนึ่งในฟอร์มที่ยอดเยี่ยมที่สุดของแมนซิตี้ แน่นอนว่าสาวกเรือใบตัวจริงเสียงจริงไม่มีวันลืมนัดสำคัญที่เรือโหดชนปีศาจแดงยับเยิบ  6-1 ไปได้หรอก  หลายฝ่ายยอมรับว่าแมนซิตี้โฉมใหม่นี้ได้โชว์คุณภาพคับแก้วที๋โอลด์ แทรฟฟอร์ด เป็นครั้งแรกนับแต่เดือนมีนาคม ปี 2014.

เอาเป็นว่า ดูกันยาวๆ มาวัดฝีมือในดาร์บี้กันอีกครั้งในวันที่ 25 ก.พ. ปีหน้า

ประเด็นนายทวารบราโว่

ประเด็นของนายทวารคนใหม่ที่มารับตำแหน่งเบอร์หนึ่งแทน โจ ฮาร์ท ได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์มากมายทั้งสื่อมวลชนและแฟนๆ ชาวไทย หลายฝ่ายคิดในแง่บวกว่า เคลาดิโอ้ บราโว่ กัปตันทีมชาติชิลีต้องอาศัยเวลาปรับตัวในพรีเมียร์ ลีก สักพัก สำหรับสยามสปอร์ตได้ออกมาวิจารณ์ว่า ความกล้าที่เกินเหตุของเขาเกือบทำให้ทีมเสียประตูหลายครั้ง โดยให้ข้อเสนอว่า เขาคงต้องเรียนรู้จังหวะของฟุตบอลอังกฤษ และเลี่ยงความเสี่ยงที่ไม่จำเป็นออกไป...

ในขณะที่ Sport.Sanook.com ได้กล่าวโทษว่า “ท้ายเกมเจ้าบ้านเกือบได้ประตูตีเสมอจากความผิดพลาดของ เคลาดิโอ บราโว่ นายทวารทีมเยือนอีก แต่ก็ได้แค่เกือบ...”

สำหรับนัดนี้คือนัดเปิดตัวนายทวารคนใหม่ของซิตี้อย่างเป็นทางการ แม้ว่าก่อนหมดครึ่งแรก เขาจะเสียประตูไปเนื่องจากการวิ่งออกมาสกัดบอลอันตรายแต่กลายเป็นว่ามาพุ่งชนเข้ากับจอห์น สโตน แดนหลังที่ได้ยืนคุมหน้าด่าน ทำให้เสียจังหวะบอลหลุดออกไปและพุ่งเป็นประตูของยูไนเต็ด  

ทุกคนต่างก็เรียนรู้จากความผิดพลาดกันทั้งนั้น เรามาดูฟอร์มของเคลาดิโอ้กันไปยาวๆ อีกกว่า  

แมนออฟเดอะแมตช์

ผลการสำรวจโพลของทวิตเตอร์ภาคภาษาไทยอย่างเป็นทางการของสโมสรออกมาว่า แฟนๆ ยกให้เควิน เดอบรอยน์ เป็นแมนออฟเดอะแมตช์แบบใสๆ จาก 69% ทำคะแนนห่างจากเคเลชี อิเฮียนาโช, โอตาเมนดิ (ทั้งคู่ได้ 8%) ในขณะที่ดาบิด ซิลบา ได้ใจแฟนไทย 18% โดยนัดนี้พ่อมดเมอร์ลินได้สวมปลอกแขกกัปตันลุยศึกดาร์บี้

โหวตบอกเราด้วยว่า ใครคือแมนออฟเดอะแมตช์ของคุณ #ManchesterDerby 1-2 #utdvcity

— Manchester City FC (@ManCityTH) 10 September 2016

 

สำหรับมิดฟิลว์เบลเยี่ยมขวัญใจแฟนไทยผู้นี้ได้สัมผัสบอลในนัดดังกล่าว 73 ครั้ง สร้างหกโอกาสในการทำประตู ยิงหกช็อต และปั่นลูกตัดเจ็ดครั้ง สุดยอดจริงๆ 

ทั้งนี้ อีกคนที่ทุ่มเทกายใจสุดขีดคือโอตาเมนดิ ที่ได้ชิงบอลสำเร็จ 100% ผ่านบอลแม่นยำ 91% สร้างโอกาสเคลียร์ๆ แปดครั้งและทำอินเตอร์เซฟชั่นหกครั้ง ชิงบอลสำเร็จสี่ครั้ง

นัดหน้าจะเป็นอย่างไร

ชมรมแฟนคลับทางเมืองไทย ( www.mcfc.in.th) ได้นำเสนอข่าวของ soccersuck ที่ได้นำเสนอบทสัมภาษณ์ของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่กล่าวว่า “แม้ฟอร์มในลีกจะโอเค. แต่โมเมนต์นี้ยังไม่ใช่แนวทางการเล่นในยุโรป ถ้าถามว่าเราพร้อมลุยเวทียุโรปไหม ผมตอบว่า ยัง เราต้องพัฒนาเกมรุกให้เฉียบคมกว่านี้

“อย่างไรก็ตามนี่เป็นแค่เริ่มต้นภายในช่วงเวลาแค่ 2 เดือน หากเราใช้เวลาร่วมกันนานมากเท่าไร เราก็ยิ่งดีขึ้นเท่านั้น”....

Pep Guardiola 

ซิตี้มีเวลาไม่นานในการเตรียมตัวลุยศึกรอบกลุ่ม แชมป์เปี้ยนลีกปะทะโบรุซเซีย มึนเช่นกลัดบัค

แน่นอนว่าซิตี้มีกำลังใจและมั่นใจเต็มที่จากการเอาชนะรวดหกนัดและมียาหอมดีๆ อย่างกุนซือคนใหม่ และแฟนๆทั่วโลก

โดยเฉพาะแฟนชาวไทยที่พร้อมจะโด๊ปกาแฟรอเชียร์ทีมรักตะลุมบอลยามดึก