"ซุปเปอร์ซิตี้" เรือบุกอัดท๊อฟฟี่ 3-1 นำจ่าฝูงห่าง 10 แต้ม

Men's Team

Mahrez hails on-field 'connection' with Bernardo

นอกจากนี้ประตูจากฟิล โฟเด้น , ริยาด มาห์เรซ และแบร์นาร์โด้ ซิลวา ณ กูดิสัน พาร์ค ยังทำให้ซิตี้ทำลายสถิติใหม่ ชนะติดต่อกัน เป็นนัดที่ 10 นับตั้งแต่เริ่มปีศักราชใหม่ มากที่สุดในอังกฤษ

ทำให้ตอนนี้เราเอาชนะเกมในพรีเมียร์ลีก ได้เป็นเกมที่ 12 ติดต่อกัน และไม่แพ้ใครมา 24 เกมติดต่อกันแล้ว... 

สุดยอดของสุดยอด!

เกิดอะไรขึ้นบ้าง

เปิดฉากครึ่งแรกมาได้แค่ 2 นาที เรือใบสีฟ้า มาอย่างดุ รูเบน ดิอ๊าส แทงให้ ชูเอา กานเซโล่ ได้อัดนอกกรอบด้วยขวาแต่บอลยังไปติดเซฟของ จอร์แดน พิคฟอร์ด ปัดออกหลัง อีกสี่นาทีถัดมา แบร์นาร์โด้ ซิลวา พลิกบอลยิงนอกกรอบแต่ก็เบาไปเข้ามือนายด่านทอฟฟี่อีก

 ทัพเรือใบยังพับสนามบุกเข้าใส่เจ้าถิ่นอย่างหนักหน่วง นาที 18 ได้โอกาสลุ้นหลัง โรดรี้ ผ่านบอลให้ กาเบรียล เชซุส หลุดเข้าไปในกรอบแต่จังหวะยิงด้วยซ้ายโดนเบียดทำให้ซัดหลุดกรอบไป

นาที 19 เยร์รี่ มีน่า เล่นต่อไม่ไหวทำให้ เอฟเวอร์ตัน ต้องเปลี่ยนตัวคนแรกด้วยการส่ง เซมุส โคลแมน ลงเล่นแทน

นาที 26 ราฮีม สเตอร์ลิง พลิกบอลแล้วแทงเข้าไปในกรอบให้ กาเบรียล เชซุส ดึงจังหวะเข้าขวาก่อนซัดไปแฉลบ ไมเคิ่ล คีน บอลลอยไปเข้ามือ จอร์แดน พิคฟอร์ด

นาที 33 หลังนวดอยู่นาน แมนฯซิตี้ มาชิงขึ้นนำ 1-0 จนได้ บอลจาก ริยาด มาห์เรซ ครอสไปหน้าประตู เบน ก็อดฟรี่ย์ โขกสกัดไม่ดีไปเข้าทาง ฟิล โฟเด้น วิ่งมาอัดด้วยขวาเต็มแรงบอลพุ่งไปแฉลบขา เชมุส โคลแมน ผ่านตัวจอร์แดน พิคฟอร์ดเข้าไป เป็นประตูที่ 6 ในซีซั่นนี้ของดาวเตะวัย 20 ปี

เกมนัดต่อไป

ตารางแข่งทั้งหมด

อา. 21 ก.พ.

Premier League

Arsenal

16:30

GMT

Man City

กระนั้น นาที 38 เอฟเวอร์ตัน มาไล่ตีเสมอ 1-1 ได้ทันควัน และเป็นโอกาสเข้าทำหนแรกของเกมจากจังหวะที่ เชมุส โคลแมน ตักบอลไปเสาไกลให้ ลูก้าส์ ดีญ วิ่งมาแปสวนบอลพุ่งไปชนเสาก่อนกระดอนมาถูก ริชาร์ลิซอน ที่ยืนอยู่ตรงนั้นพอดี เข้าไป 

    นาที 40 โรดรี้ ตักบอลเข้าไปในกรอบ บอลไปติดหัว โฮลเกต ก่อนมาเข้าทาง ฟิล โฟเด้น วิ่งมาซัดด้วยซ้ายแบบไม่จับบอลพุ่งแรงไปเข้ามือ พิคฟอร์ด

จบครึ่งแรก เอฟเวอร์ตัน เสมอกับ แมนฯซิตี้ 1-1

เริ่มครึ่งหลังมา ต้องรอถึงนาทีที่ 63 แมนฯซิตี้ มาได้ประตูพลิกขึ้นนำ 2-1 อีกครั้ง แบร์นาร์โด้ ซิลวา จ่ายสั้นๆ ให้ มาห์เรซ ในกรอบก่อนที่ อดีตแข้งเลสเตอร์ ซิตี้ จะซัดด้วยซ้ายข้างถนัดบอลพุ่งเสียบเสาไกลเข้าไปอย่างเฉียบขาด

นาที 76 แนวรับของทอฟฟี่มาเสียเม็ดที่สามต่อ จากการประสานงานอันยอดเยี่ยมของ มาห์เรซ ฝากขึ้นหน้าให้ กาเบรียล เชซุส แตะให้ แบร์นาร์โด้ ซิลวา ที่วิ่งมารับบอลแล้วอัดด้วยซ้ายเข้าไปอย่างสวยงามให้ แมนฯซิตี้ นำห่างถึง 3-1

นาที 80 เป๊ป ถอดเอากาเบรียล เชซุส ออกมาพักแล้วส่ง เควิด เดอบรอยน์ ลงไปเล่นแทน

ช่วงท้ายเกมยังเป็นทัพเรือใบที่บุกเข้าใส่มากกว่า แต่ไม่มีประตูเพิ่มเติม จบเกม แมนฯซิตี้ บุกมาเอาชนะ เอฟเวอร์ตัน แบบสนุก 3-1 เก็บสามแต้มนำเป็นจ่าฝูงพรีเมียร์ต่อไป โดยมี 56 คะแนน ทิ้งอันดับสองอย่าง “ผีแดง” ที่แข่งเท่ากันถึง 10 คะแนน 

10 - Manchester City have won their first 10 top-flight matches in 2021, the longest ever winning run by a team from the start of a calendar year in top-flight history. Juggernaut. pic.twitter.com/PYm8XbCD2O

— OptaJoe (@OptaJoe) February 17, 2021

แข้งเด่นประจำเกม

แบร์นาร์โด้ ซิลวา -  กับเวทย์มนต์ของเพลย์เมกเกอร์ชาวโปรตุกีส

หลังเกมจากบอสเป๊ป

“ วันนี้และพรุ่งนี้เราจะเอ็นจอยกับชัยชนะที่ได้วันนี้ แต่บ่ายวันพรุ่งนี้เราจะคิดถึงเกมกับอาร์เซนอล”

“ นี่เป็นเกมที่ยากจริงๆกับทีมของคาร์โล”

“ มันเป็นเรื่องยากสำหรับผู้เล่นในตำแหน่งปีก ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหาช่องว่าง ดังนั้นเราจึงต้องอดทน”

“ เราเสียประตูหนึ่งลูก แต่ไม่เสียประตูอีกลูก ที่กูดิสัน พาร์ค พวกเขานั้นแข็งแกร่งอยู่เสมอ แต่เราก็พอใจกับผลงาน”

“เราชนะมากมายติดต่อกัน แต่เรายังมีความปรารถนามากมายที่อยากจะเล่นเพื่อให้ได้มากกว่าสามคะแนนนี้”

“ เช่นเดียวกับที่แอนฟิลด์เราทำงานหนักมากและวันนี้ก็ยาก พวกเขาลงไปรับลึกและเป็นทีมที่ดีจริงๆ”

“ เรามีตารางงานแข่งที่ยุ่งเหยิงมากและไม่กี่เดือนข้างหน้า เรามีวูฟส์และเซาแธมป์ตัน ในเวลาหนึ่งสัปดาห์เช่นกัน ดังนั้นทุกคนในทีมจะได้มีส่วนร่วม”

“ ตารางแข่งอาจทำให้คุณรู้สึกหดหู่ เพราะมันมีเกมมากเกินไป ขณะที่พวกเขาต้องการพักผ่อน แต่มันก็ไม่สำคัญ”

“ ในขณะเดียวกันมันก็เป็นความท้าทายที่ยอดเยี่ยม คาราบาวคัพรอบชิงชนะเลิศกลับมาหาเราอีกครั้ง และสำหรับเอฟเอคัพ กับเอฟเวอร์ตัน วันนี้พวกเขาก็แสดงให้เห็นแล้วว่ามันจะยากแค่ไหน”

“ เราไม่ได้ดูโปรแกรมเพียงนัดถัดไปกับอาร์เซนอล เพราะหลังจากนั้นไม่กี่วันเราก็ต้องเดินทางไปเตะ UCL จากนั้นก็เป็นเวสต์แฮม ,วูล์ฟส์ และยูไนเต็ด ไม่หยุดพักเลย”

หมายความว่าอย่างไร...

ตอนนี้ซิตี้ชนะเป็นเกมที่ 17 ติดต่อกัน รวมทุกรายการ และนำห่างในตารางพรีเมียร์ลีกถึง 10 คะแนน เหนือแมนฯยูไนเต็ด และเลสเตอร์ ซิตี้

โปรแกรมนัดต่อไป?

ซิตี้จะบุกไปเยือนอาร์เซน่อลที่เอมิเรตส์ สเตเดียม ในวันอาทิตย์นี้ เริ่มเตะเวลา 23.30 น.

ไลน์-อัพ

City: Ederson, Walker, Cancelo, Dias, Laporte, Rodrigo (Fernandinho 90+1), Bernardo, Foden, Mahrez Jesus, Sterling (De Bruyne 80)

Subs: Steffen, Stones, Aguero, Zinchenko, Torres, Mendy, Fernandinho, Garcia

เอฟเวอร์ตัน : จอร์แดน พิคฟอร์ด - เยร์รี่ มีน่า (เซมุส โคลแมน น.19), ไมเคิ่ล คีน, เมสัน โฮลเกต - เบน ก็อดฟรี่ย์, อับดูลาย ดูกูเร่, ทอม เดวิส (ฮาเมส โรดริเกซ น.69), ลูก้าส์ ดีญ - กิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน, อเล็กซ์ อิโวบี้ (โจชัว คิง น.69) - ริชาร์ลิซอน

สำรอง: เดล์ฟ, เอ็นคุนคู่, แบร์นาร์ด, โกเมส, โอลเซ่น, ออนยานโก้

Stats and milestones

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชนะรวดติดต่อกัน 17 นัดรวมทุกรายการ ตั้งแต่เสมอกับเวสต์บรอมฯ ในพรีเมียร์ลีก เมื่อ 15 ธันวาคม นับเป็นสถิติที่ยาวนานที่สุด ที่เคยเกิดขึ้นกับทีมในอังกฤษ

• ซิตี้ไม่แพ้ใครรวมทุกรายการมาแล้ว 24 เกม (W21-D3-L0) ตั้งแต่พ่ายให้กับสเปอร์ส 2-0 ในพรีเมียร์ลีก เมื่อ 21 พฤศจิกายน และในตลอดช่วงที่ไม่แพ้ใคร มีทีมเดียวที่ซิตี้ ต้องตามหลังก่อนและมาแซงเอาชนะได้ นั่นคือทีมจากลีกทู อย่าง เชลต์แนม ทาวน์ ในรอบ 4 ศึกเอฟเอคัพ
• ขณะนี้ซิตี้ ทาบสถิติ (24, W21-D3-L0) ไม่แพ้ใครนานที่สุดที่เคยทำเอาไว้ ตั้งแต่เมษายน ถึงธันวาคม ปี 2017
• ซิตี้คว้าชัยชนะในพรีเมียร์ลีกติดต่อกัน 12 นัด นับเป็นการทำสถิติชนะยาวนานที่สุดเป็นอันดับสามร่วมกันของสถิติเดิมของสโมสร: สิงหาคมถึงธันวาคม 2017 (18 นัด), กุมภาพันธ์ถึงสิงหาคม 2019 (15 นัด) และเมษายนถึงกันยายน 2015 (11 นัด)
• เป็นอีกครั้งที่ซิตี้ ออกไปเยือนทั้งเอฟเวอร์ตันและลิเวอร์พูล พร้อมทั้งเอาชนะได้ทั้งคู่ ภายในฤดูกาลเดียว นับตั้งแต่ซีซั่น 1981/82 (1-0 ที่กูดิสัน พาร์ค, 3-1 ที่แอนฟิลด์)
• ราฮีม สเตอร์ลิ่ง กลายเป็นผู้เล่นคนที่ 4 ที่สามารถทำประตูได้ต่อเนื่องในเกมเยือนพรีเมียร์ลีก 4 เกม ตามหลังอูเว่ รอสเลอร์ , เซอร์กิโอ อเกวโร่ และกาเบรียล เฆซุส
• แมนฯซิตี้ เป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ของทีมฟุตบอลชั้นนำ ที่เอาชนะได้ 11 แมตซ์รวด ในตารางการแข่งขันนับตั้งแต่เปิดศักราชใหม่มา