ซิตี้ยังแข็ง! บุกตบกลัดบัค 2-0 UCL เลกแรก

ทีมชุดใหญ่

ซิตี้ จารึกสถิติใหม่ฟุตบอลอังกฤษ ชนะรวดในเกมเยือน 12 นัดติด!

ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ16ทีมสุดท้าย นัดแรก เมื่อคืนวันพุธที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มึนเช่นกลัดบัค จากเยอรมันพบกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จ่าฝูงพรีเมียร์ลีกของอังกฤษ โดยเกมนี้เล่นกันที่สนามกลาง เมือง บูดาเปสต์ ประเทศฮังการี

เปิดฉากครึ่งแรก นาทีที่ 6 ราฮีม สเตอร์ลิง หลุดเข้าไปซัดติดบล็อคแนวรับกลัดบัค และจากลูกเตะมุมต่อเนื่อง แบร์นาร์โด ซิลวา ไหลเข้ากลางให้ ฟิล โฟเด้น ซัดนอกกรอบแต่ไปเข้ามือ ยันน์ ซอมเมอร์

เกมผ่านไปครึ่งทางของครึ่งแรก แม้ทัพ “เรือใบสีฟ้า” จะครองเกมบุกเข้าใส่ กลัดบัค มากกว่าแต่ยังไม่สามารถเจาะเข้าไปในพื้นทีอันตรายได้เลย 

นาที 27 ราฮีม สเตอร์ลิง ใช้ความเร็วควบบอลเข้าไปในเขตโทษ ก่อนจังหวะสุดท้ายจะโดน รามี่ เบนเซไบนี่ พุ่งมากวาดบอลสกัดจนปีดทีมชาติอังกฤษล้มกลิ้งลงไป ผู้ตัดสินไม่ว่าอะไร แม้แข้งเรือใบจะฟ้องเอาจุดโทษ

กระนั้น นาที 29 แมนฯซิตี้ มาชิงขึ้นนำ 1-0 จนได้จากจังหวะที่ ชูเอา กานเซโล่ เปิดบอลยาวมาเสาไกลให้ แบร์นาร์โด้ ซิลวา สอดมาโขกบอลกดพื้นผ่านมือ ยันน์ ซอมเมอร์ เข้าไปอย่างเด็ดขาด

ทีมเยือนเล่นพับสนามบุกอยู่ฝ่ายเดียว นาที 39 ได้ลุ้นจาก ชูเอา กานเซโล่ ได้บอลกลางประตูแต่อัดด้วยขวาเหินคานออกไป

ท้ายครึ่งแรก นาที 44 สเตฟาน ไลเนอร์ ได้บอลขึ้นมาทางขวาก่อนพยายามครอสบอลเร็วไปหน้าประตู แต่เปิดน้ำหนักไม่ดีบอลลึกไปเข้ามือ เอแดร์ซอน รับไว้ไม่มีปัญหา

ไฮไลท์

ไฮไลท์ประตู : กลัดบัค 0-2 ซิตี้

จบครึ่งแรก โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค ตามหลัง แมนฯซิตี้ 0-1

ครึ่งหลัง นาที 63 กลัดบัค ได้เสียวโอกาสแรกของทีมเลยจากจังหวะที่ เดนิส ซากาเรีย ครอสบอลมากลางประตูให้ อลาสซาน ปเลอา ดีดด้วยขวาบอลพุ่งเฉียดเสาร์ไปแบบได้ลุ้น

นาที 65 แมนฯซิตี้ มาได้ประตูที่สองนำห่างเป็น 2-0 ชูเอา กานเซโล่ เปลี่ยนบอลวางยาวไปเสาไกลให้ แบร์นาร์โด ซิลวา โขกเข้ากลางก่อนที่ กาเบรียล เชซุส วิ่งมาจิ้มบอลเข้าไปไม่เหลือ

ถัดมานาที 78 อีกครั้งที่เรือใบสีฟ้าได้ลุ้นอีกคราวนี้ อิลคาย กุนโดกัน โขกตั้งให้ ฟิล โฟเด้น ซัดมุมแคบแต่จังหวะวอลเลย์บอลเหินคานออกไปหวุดหวิด

จบเกม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไล่อัดเอาชนะ มึนเช่นกลัดบัค ไปแบบไม่ยาก 2-0 ตุนสกอร์ก่อนกลับมาเล่นในบ้านตัวเองในเกมที่สอง วันที่ 16 มีนาคม นี้

จารึกสถิติใหม่

ชัยชนะ 2-0 เหนือกลัดบัค ส่งผลให้ทัพซิตี้ จารึกประวัติศาสตร์เป็นทีมแรกจากลีกสูงสุดของอังกฤษ ที่เก็บชัยชนะรวดในเกมเยือนได้ 12 นัดติดต่อกัน

Man of the Match

เจา กันเซโล่ โดดเด่นทุกอย่างในเกมที่บูดาเปสต์ ค่ำคืนนี้

2 แอสซิสต์ที่เริ่มจากเจ้าตัว เป็นส่วนสำคัญให้แมนฯซิตี้ ได้ผลการแข่งขันที่น่าพอใจกลับบ้าน ด้วยการเคลื่อนไหว และความคิดสร้างสรรค์ของเขา ถือเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ของทีมในเวลานี้

ลาปอร์กต์ กับนัดที่ 100

นับเป็นคืนที่น่าทึ่งเช่นกันสำหรับ อายเมริค ลาปอร์กต์ ที่ลงสนามเป็นนัดที่ 100 ของเขาในทุกการแข่งขัน

เซ็นเตอร์เลือดน้ำหอมเป็นส่วนสำคัญของความสำเร็จนับตั้งแต่เซ็นสัญญาจากแอธเลติก บิลเบา เมื่อเดือนมกราคม 2018

และนักเตะชาวฝรั่งเศสกลับมาอยู่ในฟอร์มที่ยอดเยี่ยมอีกครั้งในคืนนี้ โดยมี รูเบน ดิอาส ซึ่งเป็นหัวใจหลักในการป้องกันของเราและทำการสกัดกั้นที่สำคัญหลายครั้ง

ยินดีด้วยนะอายเมริค!

หลังเกมจากแบร์นาร์โด้

“มันเป็นเกมที่ดีสำหรับเรา ผมคิดว่ามันเป็นชัยชนะที่ดีและสำคัญมาก เพราะเรารู้ว่าการแข่งขันครั้งนี้สำคัญและยากเพียงใด เนื่องจากความผิดพลาดครั้งเดียว มันอาจหมายความว่าคุณจะต้องตกรอบไป”

“ เราพยายามเล่นง่าย ๆ ครองบอลเหมือนที่เคยทำมาตลอด เพื่อสร้างโอกาสและทำประตูมันคือชัยชนะที่ดี”

“โดยปกติแล้วผมไม่ (ทำประตูด้วยการโหม่ง) ผมพยายามฝึกฝนสิ่งนี้ให้มากและผมมีการท้าแข่งกันกับ รูเบน ดิอาส ว่าใครจะโหม่งทำประตูได้มากกว่า ผมคิดว่าคืนนี้ผมโชคดีที่ กันเซโล่ จ่ายบอลที่ยอดเยี่ยมมาให้ผม ผมดีใจที่ยิงประตูช่วยทีมได้”

“มันเป็นฤดูกาลที่ 4 ของผมที่ซิตี้ มันเป็นทีมที่ยอดเยี่ยม มีสตาฟฟ์ที่ยอดเยี่ยมและมันก็มีความสุขที่ได้เล่นให้กับทีมนี้ จนถึงตอนนี้มันเป็นฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมสำหรับเรา เราจำเป็นต้องก้าวต่อไปเพราะเราเหลือเพียงอีกครึ่งทางเท่านั้น”

หลังเกมจากบอสเป๊ป

“เราเล่นได้ดีจริง ๆ เราใช้โอกาสจบสกอร์เปลืองไปหน่อย เราต้องมีความเด็ดขาดมากกว่านี้ในถ้วยนี้”

“คุณต้องดีขึ้น แต่โดยทั่วไปแล้วไม่มีข้อตำหนิใด ๆ เพราะเรารู้ว่าพวกเขาดีแค่ไหนและมีสภาพร่างกายเป็นอย่างไร โดยทั่วไปแล้วมันเป็นเกมที่ดี ไคล์นั้นยอดเยี่ยมมาก กับเกมที่เขาเล่น”

“มันเป็นเพียงก้าวแรกของอีกหลายสัปดาห์จนถึงเลกสอง ตอนนี้เรากำลังคิดถึงการฟื้นตัวก่อนเจอเวสต์แฮม”

ไลน์-อัพ

แมนฯ ซิตี้ : เอแดร์ซอน โมราเอส - ไคล์ วอล์คเกอร์, รูเบน ดิอาส, เอเมอริค ลาปอร์กต์, เจา กันเซโล่ - ฟิล โฟเดน (เฟร์ราน ตอร์เรส น.80), โรดริโก้, อิลคาย กุนโดกัน - ราฮีม สเตอร์ลิ่ง (ริยาด มาห์เรซ น.69), กาเบรียล เฆซุส (เซอร์กิโอ อเกวโร่ น.80), แบร์นาร์โด ซิลวา

สำรอง: สเตฟเฟ่น, คาร์สัน, สโตนส์, ซินเชนโก้, เดอ บรอยน์ , เมนดี้, แฟร์นันดินโญ่, การ์เซีย, ดอยล์

กลัดบัค : ยันน์ ซอมเมอร์ - นิโก้ เอลเวดี้, เดนิส ซาคาเรีย, มัทธีอัส กินเตอร์ - สเตฟาน ไลเนอร์ (วาเลนติโน่ ลาซาโร่ น.63), โฟลเรียน นอยเฮ้าส์, คริสโตฟ คราเมอร์, โยนาส โฮฟมันน์ (ฮันเนส โวล์ฟ น.87), รามี่ เบนเซไบนี่ - ลาร์ส สตินเดิ้ล (บรีล เอ็มโบโล่ น.74), อลาสซาน ปเลอา (มาร์คัส ตูราม น.63)

สำรอง: ซิปเปล, กรัน, ลัง, เฮอร์มันน์, วูล์ฟ, เบเยอร์, ตราโอเล่, เวนท์, ยันท์ชเคอ, เอ็มโบโล่

ตัวเลขและสถิติ

- สถิติของซิตี้เกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อเราบันทึกสถิติคลีนชีตที่ 24 ของฤดูกาล มากกว่าที่เคยทำได้ในซีซั่นที่แล้ว!

- สำหรับเอแดร์ซอน ผู้รักษาประตูชาวบราซิล นับเป็นครั้งที่ 20 แล้ว ที่ฝ่ายตรงข้ามส่งบอลผ่านมือเขาไม่ได้ ลูกเซฟในนาทีที่ 93 พิสูจน์ได้ถึงความยอดเยี่ยมรอบด้านของผู้รักษาประตูของเรา

หมายความว่าอย่างไร

แมนฯซิตี้ กุมความได้เปรียบถึง 2 ประตู ในการกลับมาเล่นที่เอติฮัท กับยอดทีมจากเยอรมันอีกครั้ง

โดยเกมจะแข่งขันกันในวันอังคารที่ 16 มีนาคม เวลา 03.00 น. 

โปรแกรมต่อไป

ซิตี้จะกลับไปเล่นที่เอติฮัท สเตเดียม รอพบเวสต์แฮม ในวันเสาร์ที่ 27 กุมภาพันธ์นี้ เวลา 19.30 น. ติดตามทุกการอัปเดตได้ทาง th.mancity.com