เจา กันเซโล่: 'ฟูลแบ็คตัวหลอก' ของแมนฯ ซิตี้

เป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นถึงการมองการณ์ไกลของกวาดิโอล่าในใช้งานกองหลังเพื่อสร้างเกมรุก - แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เจายังจำเป็นต้องจัดการ 'งานหลัก' ของเขาให้ไม่บกพร่อง นั่นคือเกมรับ

กันเซโล่เป็นนักฟุตบอลที่มีพรสวรรค์ แต่สำหรับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ดูเหมือนว่าเขาจะได้ค้นพบอีกหนึ่งบทบาทของตัวเขาเอง - โดยทั้งสโมสรและผู้เล่นต่างก็ได้รับผลประโยชน์

มีคำพูดที่โด่งดังจากเกมแมนเชสเตอร์ดาร์บี้ในปี 1989 หลังจากที่ Hinchcliffe ยิงประตู 5-1 ใส่ยูไนเต็ดที่สนามเมน โร้ด และผู้บรรยายพูดว่า “และเขาเป็นแบ็คซ้าย อย่าลืมนะ!”

CITY+ | SUBSCRIBE TO ACCESS EXCLUSIVE CONTENT

Features

Ederson documentary coming soon to CITY+

สถิติของเขาในฤดูกาลนี้น่าประทับใจไม่น้อยทีเดียว

ซื้อเสื้อหมายเลข 27 ของกันเซโล่

ในพรีเมียร์ลีก เขาจ่ายบอลไปทั้งหมด 862 ครั้ง มากที่สุดในลีก มีโอกาสยิงประตู 26 ครั้ง - น้อยกว่าคริสเตียโน่ โรนัลโด้ และบรูโน่ แฟร์นันด์ส เพียง 2 ครั้งเท่านั้น

เขาจ่ายบอลทะลุช่องไป 10 ครั้ง น้อยกว่าบรูโน่ 1 ครั้ง และมีสถิติการครอสบอลมากที่สุดในทีม ที่ 37 ครั้ง

สถิติการจ่ายบอลสำเร็จ 85.7% นั่นแสดงให้เห็นถึงคุณภาพของเขาอย่างแท้จริง

เขาลงเล่นไปทั้งหมด 17 นัด จากการลงสนามของซิตี้ทั้งหมด 18 นัดในฤดูกาลจนถึงตอนนี้

เขาลงเล่นในสนามทั้งหมด 1473 นาที, หากจะมีเกมเกมหนึ่งที่สามารถบ่งบอกตัวตนของเขาได้อย่างชัดเจน นั่นคงจะเป็นเกมที่ซิตี้พบกับคลับ บรูซ โดยเขาสร้างโอกาสทำประตูได้ทั้งหมด 10 ครั้ง และทำแฮตทริกแอสซิสต์..

ในตำแหน่งกองหลัง!

เข้าสกัดสำเร็จ 34 ครั้ง, ตัดบอลสำเร็จ 38 ครั้ง 

รูปร่างที่ดูปราดเปรียวของเขาไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่มีความแข็งแกร่ง เขาคือกองหลังที่ยากลำบากสำหรับแนวรุกฝั่งตรงข้าม 

การจ่ายบอลของเขานั้นดูน่าทึ่ง และบางครั้งมันไม่สามารถป้องกันได้ ยกตัวอย่างเช่นการแอสซิสต์ให้แบร์นาร์โด้ทำประตูในเกมกับยูไนเต็ด 

เหล่านี้คือเทคนิคสุดอัศจรรย์ที่ดาวเตะวัย 27 ปีนั้นทำให้มันดูเป็นเรื่องง่าย

ในเกมใหญ่ ๆ ในฤดูกาลนี้ กันเซโลมักจะทำได้ดีเสมอ เขามีส่วนร่วมกับประตูที่เราทำได้ในเกมกับเชลซี, เลสเตอร์ และแมนฯ ยูไนเต็ด

ฝีเท้าของเขาได้รับการขนานนามว่าเป็น "พรสวรรค์อันพิเศษ" จากผู้จัดการทีม ในขณะที่เพื่อนร่วมทีมตระหนักดีถึงผลงานและความสามารถของเขาเช่นกัน

“เขามีเทคนิคที่ดี” แจ็ค กรีลิช กล่าวเมื่อไม่นานนี้

“เมื่อเราเล่นหนึ่งจังหวะ หรือสองจังหวะ เขาทีเด็ดมาก จากนั้นเขาก็สามารถยิงด้วยเท้าขวา เท้าซ้าย และสามารถยิงได้จากทุกระยะ”

ฟิล โฟเด้น เห็นด้วย “เจาเป็นหนึ่งในแบ็คที่ดีที่สุดในโลก หรือไม่เช่นนั้น เขาก็คือฟูลแบ็คตัวรุกที่ดีที่สุดในโลก เขามักจะยิงประตูและแอสซิสต์ได้เสมอ” 

“ถ้าวันไหนนักเตะกองหน้าของเราเล่นไม่ออก เราต้องการใครสักคนที่ขึ้นมาทำประตูและแอสซิสต์ และเจาอยู่ตรงนั้นเสมอ ในช่วงเวลาสำคัญในเกมใหญ่"

“เขามีคุณภาพเต็มเปี่ยมหน้าปากประตู”

กูรูฟุตบอลก็รู้สึกทึ่งกับตำแหน่งการยืนของเขา ซึ่งนั่นดูเหมือนจะเป็นตำแหน่งอิสระในแนวรุก

ริโอ เฟอร์ดินานด์ อดีตกัปตันทีมชาติอังกฤษและยูไนเต็ด ยอมรับว่าตัวเขาเองนั้นเป็นแฟนตัวยงของเจา กันเซโล่

“เขาเล่นเป็นฟูลแบ็ค แต่ไม่ใช่ฟูลแบ็คแบบธรรมดา” เขากล่าว

“เขาชอบวิ่งตัดเข้ามากลางสนาม"

“ตำแหน่งของเขานั้น, เมื่อซิตี้ได้บอลอยู่กลางสนาม เขาจะหุบเข้ามาตรงกลาง โดยมี 3 กองหลังอยู่ด้านหลัง และมีนักเตะอีก 2 คนอยู่หน้ากองหลัง ซึ่งเขามักจะอยู่ตรงนั้น"

“เขาอยู่ในตำแหน่งหมายเลข 10 ในบางครั้ง และเขาก็กลายเป็นเหมือนเพลย์เมคเกอร์ มันบ้ามากที่ได้เห็นแบบนั้น และนี่คือทั้งหมดที่ชัดเจนว่าเป๊ปและเขามองภาพรวมของเกม ในมุมมองที่แตกต่างจากคนอื่น”

เจาผ่านอะไรมามากมาย เขาต้องเอาชนะความผิดหวัง จนกว่าจะมาถึงจุดนี้

ในปี 2013 อุบัติเหตุทางรถยนต์พรากคุณแม่ Filomena ไปจากเขา, เจาและน้องชายรอดพ้นจากความอันตรายในครั้งนั้น  - เจาในอายุเพียง 18 ปี แทบจะเลิกเล่นฟุตบอล

คุณพ่อเกลี้ยกล่อมว่าเจาต้องใช้ชีวิตให้คุ้มค่าที่สุดเพื่อเป็นเกียรติให้แก่คุณแม่ และต้องทำให้คุณแม่ภูมิใจ - และด้วยความทะเยอทะยานนั้น เขาจึงเล่นฟุตบอลต่อเพื่อแม่ของเขา และมันก็กลายเป็นแรงผลักดันให้เขาประสบความสำเร็จในทุกวันนี้

ที่บาเลนเซีย โค้ชของเขาในขณะนั้น มาร์เซลิโน การ์เซีย โตราล กล่าวว่า “ทัศนคติของเจาสมควรได้รับการยกย่อง ตอนที่เขารู้ว่าเขากำลังจะย้ายทีม แต่เขายังคงอยากจะเล่น  มันแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นคนอย่างไร"

“ชีวิตของเขาไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่เขามีบุคลิกที่โดดเด่น ผมดีใจที่ได้ร่วมงานกับเขา”

เมื่อเร็ว ๆ นี้  เจาให้สัมภาษณ์ผ่าน Portuguese TV ว่า “ผมรู้ว่าแม่ภูมิใจกับผมมาก สิ่งเดียวที่ผมขาดคือแม่ วันนี้ผมมีทุกอย่าง ผมมีลูกสาวที่น่ารัก ผมก็มีครอบครัวที่ดีด้วย และแม่สมควรที่จะเห็นความสำเร็จของผมมากกว่าใคร ๆ แต่ผมรู้ว่าแม่จะต้องภูมิใจในตัวผมอย่างแน่นอน”

ริชาร์ด ดันน์ อดีตกัปตันทีมซิตี้ ได้สรุปไว้อย่างชัดเจนว่ากันเซโล่มีความหมายต่อทีมอย่างไร

“ในสไตล์ฟุตบอลนี้ เขาสมบูรณ์แบบ ลีลาการเล่นของเขาช่างงดงาม เขาเป็นเหมือนหมายเลข 10 ที่เล่นเป็นฟูลแบ็ค สำหรับผม เขาเป็นคนที่โดดเด่นมากจริง ๆ”