โฟเด้นซัดชัย! ซิตี้เชือดดอร์ทมุนด์ 2-1 ชปล. รอบ 8 ทีม ยกแรก

เควิน เดอบรอยน์ เบิกประตูแรกให้กับทีมก่อนในช่วงครึ่งเวลาแรก แต่ก็มาโดนมาร์โก้ รอยส์ ตามตีเสมอได้ในช่วงอีกเพียง 5 นาที ก่อนจะจบเกมในครึ่งเวลาหลัง

เกมทำท่าว่าจะจบลงด้วยผลเสมอ แต่แล้วในนาทีสุดท้าย ฟิล โฟเดน ก็มาทำประตูชัยเช็คบิลทัพเสือเหลืองได้สำเร็จ จากการแอสซิสต์ของอิลคาย กุนโดกัน

เกิดอะไรขึ้นบ้าง?

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เทรนเนอร์แมนฯ ซิตี้ พาทีมเข้ารอบนี้ หลังฝ่าด่านกลัดบัคมาแบบสบาย ๆ ด้วยประตูรวม 2 นัด 4-0 ก่อนอัดเลสเตอร์ 2-0 ในเกมลีกนัดล่าสุด เป็นการคว้าชัย 5 นัดติดต่อกันรวมทุกรายการ

เริ่มมาได้ 7 นาทีผ่านเป็น "เสือเหลือง" ทักทายก่อนจากจังหวะประสานงานสุดสวย  เออร์ลิง ฮาแลนด์ ดีดต่อให้ จู๊ด เบลลิงแฮม สอดมารับก่อนสับหนี ไคล์ วอล์คเกอร์ ได้ช่องอัดด้วยซ้ายติดเซฟ เอแดร์ซอน โมราเอส ตบทิ้งออกมาหวุดหวิด

แต่แล้วนาทีที่ 19 "เรือใบสีฟ้า" ทะยานออกนำ 1-0 จากความผิดพลาดของ เอ็มเร่ ชาน จ่ายบอลพลาดและเป็น เควิน เดอ บรอยน์ พาสวนขึ้นมาแทงออกซ้ายให้ ฟิล โฟเด้น ปาดเข้าในแรงไปเสาไกลถึง ริยาด มาห์เรซ หักเข้ากลางอีกรอบและเป็น เดอ บรอยน์ สอดมาตั้งเท้าแปเข้าไปไม่เหลือ

นาทีที่ 24 ดอร์ทมุนด์ ได้เสียวบ้างคราวนี้เป็น โรดรี้ เอร์นานเดซ เสียบอลหน้าหน้ากรอบเขตโทษโดน เออร์ลิง ฮาแลนด์ ดักก่อนไหลมาเข้าทาง ราฟาแอล เกร์เรยโร่ ยกข้ามแนวรับให้ มาร์โก รอยส์ สอดมาเกือบได้ยิงเสียดายแรงไปถึง เอแดร์ซอน โมราเอส

ต่อมานาทีที่ 29 จากฟรีคิกทางขวาของ เควิน เดอ บรอยน์ ปั่นบอลเข้าเขตโทษกระดอนมาเสาไกลจากจังหวะนี้ เอ็มเร่ ชาน ยกเท้าดีดส้นไปโดนหัวเข่า โรดรี้ เอร์นานเดซ ร่วงลงไปในเขตโทษ ผู้ตัดสิน ชี้เป็นจุดโทษทันที ก่อนขอออกมาดู วีเออาร์ และเปลี่ยนใจให้เกมดำเนินต่อไป

ถัดมาอีก 7 นาที ฟรีคิกเกือบ 30 หลาทางซ้ายของ ฟิล โฟเด้น ปั่นบอลโค้งตกพื้นเด้งมาแฉลบ รูเบน ดิอ๊าส เปลี่ยนทางไปตรงตัว มาร์วิน ฮิตซ์ ยืนตำแหน่งดีรับเอาไว้ได้

นาทีต่อมา "เสือเหลือง" หวิดตีเสมอ ราฟาแอล เกร์เรยโร่ ยกบอลขึ้นมาแรงไปถึง เอแดร์ซอน โมราเอส ออกมานอกเส้นแต่จังหวะเคลียร์ช้าโดน จู๊ด เบลลิงแฮม โฉบมาฉกไปจากเท้าโชคดี ผู้ตัดสิน มองว่าเป็นการฟาวล์

ท้ายครึ่งแรก เจ้าถิ่น โหมหนัก รูเบน ดิอ๊าส วางบอลยาวข้ามแนวรับให้ ฟิล โฟเด้น พาลากเข้าเขตโทษก่อนยัดด้วยซ้ายมุมแคบติดเซฟ มาร์วิน ฮิตซ์ ตบทิ้งได้ทันแต่ก็มีธงล้ำหน้ายกขึ้นมาจากข้างสนาม

หมดครึ่งเวลาแรก แมนฯ ซิตี้ 1 ดอร์ทมุนด์ 0

นาทีที่ 48 ดอร์ทมุนด์ พลาดโอกาสทองจากความแข็งแกร่งของ เออร์ลิง ฮาแลนด์ หลุดกับดักล้ำหน้าเบียดเอาชนะ รูเบน ดิอ๊าส พาเข้าเขตโทษแต่จังหวะหักข้อด้วยซ้ายติดเท้า เอแดร์ซอน โมราเอส เซฟเอาไว้ได้

นาทีที่ 65 "เรือใบสีฟ้า" พลาดอย่างเหลือเชื่อจากบอลทางขวาของ เควิน เดอ บรอยน์ หลุดขึ้นมาได้ช่องตบย้อนเข้าในถึง ฟิล โฟเด้น ตั้งเท้าแปด้วยซ้ายหน้ากรอบ 6 หลาไปตรงตัว มาร์วิน ฮิตซ์

15 นาทีสุดท้าย แมนฯ ซิตี้ เร่งเครื่องหาประตูเพิ่มเป็น เควิน เดอ บรอยน์ แหวกหนีแนวรับ ดอร์ทมุนด์ ก่อนตั้งป้อมอัดด้วยขวาหน้ากรอบ 18 หลาบอลเรียดผ่านมือ มาร์วิน ฮิตซ์ หลุดเสาไกลนิดเดียว

จากจังหวะต่อเนื่องคราวนี้ เควิน เดอ บรอยน์ ถอยมาตั้งเกมแทงขึ้นมาให้ ฟิล โฟเด้น ตะบันด้วยซ้ายเสียดายไปตรงตัว มาร์วิน ฮิตซ์ รับหลุดมือก่อนตามมาตะปปได้ทัน

นาทีที่ 84 ดอร์ทมุนด์ มาตามตีเสมอ 1-1 จากบอลกลางสนาม จู๊ด เบลลิงแฮม ฝากให้ เออร์ลิง ฮาแลนด์ ตวัดเร็วต่อให้ มาร์โก รอยส์ สอดเข้าเขตโทษเอียงตัวซัดด้วยขวาผ่าน เอแดร์ซอน โมราเอส ตุงตาข่าย

สุดท้ายนาทีที่ 90 "เรือใบสีฟ้า" มาได้ประตูชัย 2-1 จนได้ เควิน เดอ บรอยน์ วางบอลยาวลึกมาเสาไกลถึง อิลคาย กุนโดกัน แปะต่อให้ ฟิล โฟเด้น ตวัดด้วยซ้ายตามน้ำไม่ถึง 5 หลาเข้าไปไม่พลาด

หลังจากนั้นไม่มีสกอร์เพิ่ม จบเกม แมนฯ ซิตี้ 2 ดอร์ทมุนด์ 1 กุมความได้เปรียบในถิ่นเอติฮัด สเตเดียม ไปได้ก่อนในเลกแรก

ฮีโร่ประจำแมตซ์

เป็นอีกครั้งที่โฟเด้น ร่ายมนต์ให้เราได้เห็น

และเกมในคืนนี้เป็นที่น่าทึ่งมากกว่าล้วนเต็มไปด้วยแข้งวัย 20 ปี ไม่ว่าจะทั้งฝั่งสีเหลืองหรือสีฟ้า ต่างโดดเด่นไม่แพ้กัน

หมายความว่าอย่างไร...

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กุมความได้เปรียบไปก่อนในเลกแรก ซึ่งต่อไปในนัดที่ 2 เราสามารถกุมผลเสมอได้ เช่นกันกับทางดอร์ทมุนด์ ที่หากทำได้เพียงประตูเดียว ก็มีสิทธิ์ผ่านเข้าสู่รอบต่อไป

โปรแกรมถัดไป

ซิตี้จะเปิดเอติฮัด ต้อนรับการมาเยือนของลีดส์ ยูไนเต็ด ในวันเสาร์นี้กับศึกพรีเมียร์ลีก เริ่มเตะ 18.30 น.

จากนั้นในวันพุธมีคิวบินไปเตะศึก UCL นัดที่ 2 กับดอร์ทมุนด์ทันที เริ่มเตะเวลา 02.00 น.

หลังเกมจากบอสเป๊ป

" มันเป็นเรื่องดีที่เรามุ่งจะเอาชนะมากกว่าเสมอ "

“ ในครึ่งแรกบอลไม่ค่อยเป็นใจกับเรา"

" การผ่านบอลของเราไม่ดีสำหรับเพื่อนร่วมทีม แต่ครึ่งหลังดีกว่ามาก เรามีโอกาสชัดเจนสองสามครั้งที่ 1-0 เพื่อทำประตูที่สองและสาม"

"น่าเสียดายที่มันไม่เกิดขึ้น แต่แล้วเราก็พบประตูที่ทำให้เราชนะ"

"การเล่นให้ดีในด้านที่เราต้องการ คุณต้องสร้างผลงานให้ดีและวันนี้ก็ไม่ดี"

"เจาและโรดริโก้ ไม่ค่อยเป็นธรรมชาติในการไปกับบอล แต่มันเป็นเรื่องปกติเพราะดอร์ทมุนด์แข็งแกร่งและมีคุณภาพที่ดี"

"ด้วยฝีเท้าและคุณภาพในระดับแนวหน้า พวกเขาทำให้เราเจองานยากในสิ่งที่ต้องการจะทำ แต่ 2-1 เป็นเรื่องดีและเรามีโอกาสอีกครั้งในหนึ่งสัปดาห์ข้างหน้า"

"เราจะกลับไปดูเกม ตอนนี้เรารู้แน่ชัดแล้วว่าพวกเขาทำอะไร เราจะปรับเปลี่ยนบางอย่างเพื่อพยายามไปต่อให้ได้และชนะเกม เราชนะ 27 ใน 28 นัดล่าสุด และตอนนี้โฟกัสต่อไปคือลีดส์"

"และจากนั้นเราไปที่เยอรมนีเพื่อพยายามคว้าชัยชนะให้ได้"

TEAMS

แมนฯ ซิตี้ : เอแดร์ซอน โมราเอส - ไคล์ วอล์คเกอร์, รูเบน ดิอ๊าส, จอห์น สโตนส์, ชูเอา กานเซโล่ - โรดรี้ เอร์นานเดซ, อิลคาย กุนโดกัน - ริยาด มาห์เรซ, เควิน เดอ บรอยน์, ฟิล โฟเด้น - แบร์นาร์โด้ ซิลวา (กาเบรียล เฆซุส น.59)

สำรอง: สเตฟเฟ่น, ทรัฟฟอร์ด, อาเก้, สเตอร์ลิ่ง, อเกวโร่, ซินเชนโก้, ลาปอร์กต์, ตอร์เรส, เมนดี้, แฟร์นันดินโญ่, การ์เซีย

ดอร์ทมุนด์ : มาร์วิน ฮิตซ์ - มาเตอู โมเรย์ (โธมัส เมอนิเย่ร์ น.81), มานูเอล อคานจี, มัตส์ ฮุมเมลส์, ราฟาแอล เกร์เรยโร่ - จู๊ด เบลลิงแฮม, เอ็มเร่ ชาน, มาห์มูด ดาอูด (โธมัส เดลานี่ย์ น.81) - อันส์การ์ คเนาฟฟ์ (จิโอวานนี่ เรย์นา น.63), มาร์โก รอยส์, เออร์ลิง เบราท์ ฮาแลนด์

สำรอง : เบอร์กี้, อาซาร์, ชูสซ์, แบรนท์, คาร์วาลโญ่, มูนิเยียร์, พิซเชคส์, ทิกเกส, พาสสลักค์, ดจาร์ก้า

สถิติและตัวเลขจากเกม

ฟิล โฟเดน ในวัย 20 ปี 313 วัน เป็นแข้งอังกฤษอายุน้อยที่สุดที่ยิงประตูชัยให้ทีมชนะใน 90 นาที ของศึกแชมเปียนส์ลีก แซงหน้าเวย์น รูนีย์ที่อายุ 21 ปี 182 วัน ในเกมที่เขาทำประตูชัยให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คว้าชัยเหนือเอซี มิลาน 3-2 ในเดือนเมษายน 2550

นับตั้งแต่ฤดูกาลแรกของพวกเขาในแชมเปี้ยนส์ลีกในปี 2011-12 ไม่มีทีมใดทำประตูได้ใน 90 นาทีมากกว่าแมนเชสเตอร์ ซิตี้ (17 ประตู เท่ากับเรอัล มาดริด)

มาร์โก้ รอยส์ กลายเป็นผู้ทำประตูสูงสุดทันทีของโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในแชมเปี้ยนส์ลีกด้วยจำนวน 18 ประตู ก่อนหน้านี้เขาสถิติเท่ากับ เลวานดอฟสกี้ ที่ 17 ประตู

รอยส์ ยังเป็นผู้เล่นคนแรกที่ยิงประตูในแชมเปี้ยนส์ลีกกับแมนฯ ซิตี้ นับตั้งแต่หลุยส์ ดิอาซ ยิงให้ปอร์โต้ในเดือนตุลาคมทำให้ซิตี้จบลงที่ 788 นาทีโดยไม่เสียประตูในการแข่งขัน (เก็บคลีนชีต 7 นัดติดต่อกันก่อนวันนี้)

ตอนนี้ซิตี้ชนะ 27 จาก 28 นัดล่าสุดในทุกรายการ

ซิตี้ชนะ 7 เกมรวดทั้งเหย้าและเยือนกับสโมสรเยอรมัน - รวมถึงรอบ 16 ทีมในฤดูกาลนี้ของเรา ที่เอาชนะดอร์ทมุนด์ คือชัยชนะครั้งที่ 7 ในบ้านต่อทีมจากบุนเดสลีกา การพ่ายต่อบาเยิร์น 3-1 ในปี 2013 (ที่คุมทีมโดยกวาร์ดิโอล่า) เป็นการแพ้ครั้งเดียวให้กับทีมจากเยอรมันในแมนเชสเตอร์ (ชนะ 9 , เสมอ 2)

ซิตี้ยิงไป 54 ประตูจาก 22 นัดล่าสุดของยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในช่วง 3 ฤดูกาลที่ผ่านมา สถิติของเราคือ ชนะ 21 ครั้ง , เสมอ 4 ครั้ง , แพ้ 3 ครั้ง ยิงได้ 70 ประตูและเสีย 23 ประตู

ทีมของกวาร์ดิโอล่าไม่แพ้ใครในบ้าน 13 นัดในเกมยุโรป (W12 D1) นับตั้งแต่แพ้ลียง 2-1 ในแมตช์เดย์เลกที่ 1 ในปี 2018/19