ลูกไฟโรดริโก้! ซิตี้เปิดบ้านรัวเอฟเวอร์ตัน 3-0

Men's Team

Black Friday Offers!

โรดริโก้ จัดการจอร์แดน พิคฟอร์ด ด้วยลูกยิงไกลสุดโหดกว่า 25 หลา พุ่งเสียบตาข่ายเป็นประตูที่ 2 ส่วนประตูแรก เป็นแอสซิสต์สุดเวิร์ลคลาสของ เจา กันเซโล่ ที่ส่งต่อไปให้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ทำประตูฉลองนัดที่ 300 ในพรีเมียร์ลีกของเจ้าตัว

แบร์นาร์โด้ ซิลวา มาทำประตูปิดท้าย ส่งแมนฯ ซิตี้ เก็บ 3 คะแนนเหนือลูกทีมของราฟาเอล เบนิเตซ กลับขึ้นไปรั้งรองจ่าฝูงต่อในศึกพรีเมียร์ลีก

เกิดอะไรขึ้นบ้าง

ทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า วันนี้ไม่มี เควิน เดอ บรอยน์ ที่ติดเชื้อโควิด-19 รวมไปถึง เฟร์ราน ตอร์เรส และ แจ็ค กรีลิช ที่มีปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวน โดยส่ง โคล พาลเมอร์ แข้งดาวรุ่งทำเกมแดนกลาง ขณะที่สามแนวรุกวาง แบร์นาร์โด้ ซิลวา, ฟิล โฟเด้น และ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง

ครึ่งแรกเปิดฉากมา เป็นซิตี้ที่ครองเกมบุกใส่ทันที เกือบขึ้นนำได้สำเร็จในนาทีที่ 11 เมื่อ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง กระชากขึ้นมาทางขวา ก่อนเปิดไปที่เสาไกลให้ ฟิล โฟเด้น ขึ้นโหม่งย้อน ๆ บอลเหินข้ามคานไปนิดเดียว 

หลังจากนั้น เอฟเวอร์ตัน โชคร้ายต้องเสียโควต้าเปลี่ยนตัวคนแรกอย่างรวดเร็วเมื่อ เดมาราย เกรย์ มีปัญหาอาการบาดเจ็บบริเวณโคนขาหนีบจนเล่นต่อไม่ไหว และเป็น อเล็กซ์ อิโวบี้ ที่ถูกส่งลงมาเล่นแทน ในนาทีที่ 17

"เรือใบสีฟ้า" ยังครองเกมบุกใส่อยู่ฝ่ายเดียว นาทีที่ 27 ใกล้เคียงที่จะขึ้นนำอีกครั้ง ฟิล โฟเด้น ตั้งป้อมเปิดจากกราบซ้ายเข้าเขตโทษให้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ขึ้นโหม่งแต่กดไม่ลงข้ามคานออกไป

เพียงอีกนาทีเดียวถัดมาเจ้าถิ่นได้โอกาสทองอีกครั้ง แบร์นาร์โด้ ซิลวา หลุดเดี่ยวมายิงติดเซฟ จอร์แดน พิคฟอร์ด บอลกระดอนมาเข้าทางปืน อิลคาย กุนโดกัน ตามโหม่งซ้ำดาบสอง แต่บอลลอยย้อยไปตกบนคานอย่างน่าเสียดาย 

กระทั่งมาในนาทีที่ 33 ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ลากบอลเข้าเขตโทษก่อนจะโดน ไมเคิ่ล คีน แหย่เท้าสกัดล้มไปในเขตโทษผู้ตัดสิน สจ๊วร์ต แอ็ตเวลล์ ชี้เป็นจุดโทษให้ซิตี้ แต่ได้รับสัญญาณ VAR ก่อนจะไปย้อนดูเหตุการณ์ด้วยตัวเอง แล้วกลับคำตัดสินไม่ให้เป็นจุดโทษกับเจ้าถิ่น 

อย่างไรก็ตามนาทีที่ 44 ความพยายามของ แมนฯ ซิตี้ ก็มาสัมฤทธิ์ผลขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ เจา กันเซโล่ จ่ายบอลไซด์ก้อยสุดสวยทะลุช่องจากกลางสนามแบบเหนือชั้นมาให้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง หลุดเดี่ยวมาแปบอลตามน้ำเข้าประตูไป 

ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบครึ่งแรกที่เอติฮัด สเตเดียม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ขึ้นนำ เอฟเวอร์ตัน 1-0

ครึ่งหลังทั้งสองทีมยังไม่มีรายงานการเปลี่ยนตัวผู้เล่น ก่อนที่นาทีที่ 55 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะมานำห่าง 2-0 จากจังหวะที่แนวรับ เอฟเวอร์ตัน เคลียร์บอลไม่ขาด บอลมาเข้าทางปืนของ โรดริโก้ วิ่งมากดด้วยขวาเต็มข้อ บริเวณ 25 หลา หน้ากรอบเขตโทษ ส่งบอลเสียบสามเหลี่ยมเข้าไปอย่างสวยงาม 

แมนฯ ซิตี้ คุมเกมได้แบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด บุกใส่อยู่ฝ่ายเดียวหวังเอาประตูปิดเกมให้ได้ นาที 74 โคล พาลเมอร์ ลองส่องนอกกรอบด้วยซ้ายตามเสียงเชียร์ของแฟนๆ แต่บอลยังเหินข้ามคาน

จากนั้นนาทีที่ 78 ซิตี้ มาชวดได้ลูกสามแบบเหลือเชื่อเมื่อ ไคล์ วอล์คเกอร์ หลุดมาทางขวาแล้วจ่ายบอลถวายพานให้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ที่ยืนโล่งๆหน้าปากประตูแต่สุดท้ายกลับยิงไปติดเซฟของ จอร์แดน พิคฟอร์ด 

เข้าสู่ช่วงท้ายเกม นาทีที่ 85 เกมบุกยังคงเป็นของซิตี้ โคล พาลเมอร์ ได้สเต็ปเข้าไปยิงด้วยซ้ายหน้าปากประตู แต่บอลยังติดบล็อคไปเข้าทางแบร์นาร์โด้ ซิลวา หลุดเข้าไปแปสวนตัวพิคฟอร์ด เป็นประตูปิดกล่องให้แมนเชสเตอร์ ซิตี้   

ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านถล่ม เอฟเวอร์ตัน 3-0 เก็บ 3 คะแนน ขึ้นไปรั้งตำแหน่งรองจ่าฝูงต่อไปในสัปดาห์นี้ 

หลังเกมจากบอสเป๊ป

“มันเป็นเรื่องที่ดีทั้งก่อนเบรกทีมชาติ และมันเป็นเรื่องที่ดีหลังพักเบรกเช่นกัน"

"ราฟาคือเจ้าแห่งจังหวะเกมรับ เมื่อเล่นกับทีมที่ไม่ต้องการโจมตี แค่ตั้งรับ ตั้งรับ ตั้งรับ และรอจังหวะโต้กลับกับเกรย์และริชาร์ลิสัน"

“เราจ่ายบอลเยอะมากและถูกจังหวะโจมตีพวกเขา แต่เมื่อเราเสียบอลก็ถือว่าทำได้ดีในช่วงจังหวะเปลี่ยนผ่านตำแหน่ง เราจัดการกับช่วงเวลาต่าง ๆ ในเกมได้ ผมพอใจกับฟอร์มในช่วงหลังพักเบรกทีมชาติของเรา”

Man of the Match: โรดริโก้

แข้งชาวชาวสเปน โดดเด่นในชัยชนะ 2-0 เหนือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และเขากลับมาจากการพักเบรคทีมชาติ ด้วยการโชว์ฟอร์มที่ดีอีกครั้ง

ด้วยเกมที่ซิตี้ ควบคุมได้ทั้งหมด เขาจึงได้ครอบครองจังหวะเพื่อสร้างโอกาสโจมตี เตรียมพร้อมลูกยิงจากแถวสองเสมอเพราะเป็นเรื่องยากในการเจาะเอฟเวอร์ตันเข้าไป

และนี่คือผลงานที่ยอดเยี่ยมของนักเตะวัย 25 ปี กับลูกยิงสุดโหด ที่ซัดเข้าไปมุมบนชนิดที่ตาข่ายแทบขาด หมดสิทธิ์รับด้วยประการทั้งปวงสำหรับจอร์แดน พอคฟอร์ด

เป็นประตูที่มีคุณภาพสูงสุดอย่างแท้จริง!

สถิติที่น่าสนใจ

• อายุ 26 ปี 348 วัน สเตอร์ลิ่งกลายเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดคนที่ 4 ที่ลงเล่นครบ 300 นัดในพรีเมียร์ลีก
• แบร์นาร์โด้ มีส่วนร่วมกับ 50 ประตูในพรีเมียร์ลีก (25 ประตู, 25 แอสซิสต์) และทำประตูในการลงสนามในลีกติดต่อกันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่มีนาคม 2018

หมายความว่าอย่างไร

ซิตี้ยังคงรั้งอันดับ 2 ของตาราง ตามหลังจ่าฝูงเชลซี 3 แต้ม หลังจบเกม 12 เกม พร้อมมีภารกิจกับเวสต์แฮม ยูไนเต็ด ที่จะมาเยือนเอติฮัดต่อในสุดสัปดาห์หน้า

คลีนชีตนี้เป็นครั้งที่ 20 ในลีกของเรา ในปี 2021 ซึ่งเป็นจำนวนสูงสุดที่เราทำได้ในปีปฏิทิน

Up next

เกมนัดต่อไป

ตารางแข่งทั้งหมด

พ. 24 พ.ย.

Champions League

Man City

20:00

GMT

Paris Saint-Germain

ไลน์-อัพ

แมนเชสเตอร์ ซิตี้: เอแดร์สัน, วอล์คเกอร์, สโตนส์, ลาปอร์กต์ (อาเก้ 76’), กันเซโล่, โรดริโก้, กุนโดกัน (C), แบร์นาร์โด้, พาลเมอร์ (แม็คอาตี้ 87’), โฟเด้น (มาห์เรซ 57’), สเตอร์ลิ่ง

สำรอง: สเตฟเฟ่น, คาร์สัน, ดิอาส, เฆซุส, ซินเชนโก้, แฟร์นันดินโญ่

เอฟเวอร์ตัน: พิคฟอร์ด, โคแมน (c), คีน, กอดฟรีย์, ดีญ, อัลลัน (ออนยาโก้ 90’), เดลฟ์ (รอนดอน 63’), ทาวเซ่น, เกรย์ (อิโวบี้ 17’), กอร์ดอน, ริชาร์ลิสัน

สำรอง: เบโกวิช, เคนนี่, โตซุน, จิบาแม็ง, แบรนธไวต์ , ซิมม์