กองกลางรายนี้ลงเล่นให้ทัพกระทิงดุ 45 นาที, ในเกมที่พวกเขาเอาชนะทีมอังกฤษในรอบชิงชนะเลิศที่สนามกีฬาโอลิมปิกในกรุงเบอร์ลิน
สเปนขึ้นนำในช่วงต้นครึ่งหลังจากนิโก้ วิลเลียมส์ ก่อนที่โคล พาลเมอร์อดีตนักเตะซิตี้จะตีเสมอให้อังกฤษก่อนหมดเวลา 15 นาที
แต่ลูกชาร์จจ่อ ๆ ของมิเกล โอยาร์ซาบัลในช่วง 5 นาทีสุดท้ายของเกมคือลูกยิงตัดสินแชมป์ในทัวร์นาเมนท์นี้
นี่เป็นครั้งที่สี่แล้วที่สเปนครองตำแหน่งแชมป์ยุโรป ซึ่งถือเป็นสถิติที่มากที่สุดของการแข่งขันรายการนี้ และเป็นการคว้าแชมป์ครั้งแรกนับตั้งแต่เป็นแชมป์ 2 สมัยติดเมื่อปี 2008 และ 2012
ทีมของหลุยส์ เด ลา ฟวนเต้ปิดฉากยูโร 2024 ในฐานะทีมที่ยิงประตูได้มากที่สุด โดยทำไปถึง 15 ประตูระหว่างเส้นทางสู่การคว้าแชมป์
สเปนชนะทั้ง 7 นัดในทัวร์นาเมนต์นี้ โดยมีเพียงชัยชนะเหนือเจ้าภาพเยอรมนี 2-1 ในรอบก่อนรองชนะเลิศเท่านั้นที่ต้องตัดสินกันในช่วงต่อเวลาพิเศษ
และโรดริโก้คือส่วนสำคัญของความสำเร็จนั้น
หลังจากช่วยให้ทัพ “ลา โรฆา” ขึ้นจ่าฝูงของกลุ่มบีโดยไม่เสียประตูแม้แต่ประตูเดียว นักเตะวัย 28 ปีก็คว้าประตูแรกให้ทีมชาติได้ในเกมที่ชนะจอร์เจีย 4-1 ในรอบ 16 ทีม
จากนั้นพวกเขาคว้าชัยชนะเหนือเจ้าภาพเยอรมนีได้ในรอบ 8 ทีมสุดท้ายจากลูกโหม่งในช่วงต่อเวลาพิเศษนาทีที่ 119 ของมิเกล เมริโน
สเปนผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้ด้วยการคว้าชัยชนะ 2-1 เหนือทีมยักษ์ใหญ่อย่างฝรั่งเศส
นั่นนำไปสู่การเผชิญหน้าในนัดชิงชนะเลิศกับอังกฤษเมื่อค่ำคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งมิดฟิลด์สแปนนิชรายนี้ได้เพิ่มอีกหนึ่งถ้วยรางวัลเข้าในคอลเลคชั่นของตัวเอง
ทุกคนที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ขอแสดงความยินดีกับโรดริโก้กับความสำเร็จในครั้งนี้