มิดฟิลว์ชาวอังกฤษลูกหม้อซิตี้อะคาเดมี่

ฟิลในวัย 17 ปี ได้ประจันหน้ากับกองทัพแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ริอัล มาดริด และสเปอร์ในการชิงชัยถ้วยอินเตอร์เนชั่นแนล แชมป์เปี้ยน คัพ 2017

เขาเข้าสู่วงการลูกหนังด้วยการร่วมทีมซิตี้ยู 9 และกลายเป็นนักเตะคนที่สามในประวัติศาสตร์ของสโมสรที่มีชื่อติดผังนักเตะชุดใหญ่ (ก่อนหน้านี้มีกลิน พาร์โด และพอล ซิมซัน) โดยเป๊ป กวาร์ดิโอล่า ให้เขาเป็นผู้เล่นสำรองในนัดปะทะเซลติก ทีมฝั่งสกอตแลนด์ ในรายการแชมป์เปี้ยน ลีก เมื่อเดือนธันวาคม 2016

ฟิลได้ฉายแววเด่นในขณะร่วมทัพยู18 ที่พ่ายแพ้เพียงสองนัดจากการโรมรัน 29 เกมในลีกเมื่อฤดูกาล 2016/17 อีกทั้งยังผ่านเข้าไปเล่นในรอบไฟน่อลปะทะเชลซี ศึกเอฟเอ ยูธ คัพ

เขาคือเพลย์เมกเกอร์ถนัดซ้ายที่สามารถเล่นได้ทั้งเซ็นเตอร์มิดฟิลว์และในตำแหน่งกว้าง

ฟิลได้โชว์การยิงประตูสุดยอดในขาแรก ศึกเอฟเอ ยูธ คัพ โดยเขานำบอลเข้าไปยิงทรงพลังกระแทกมุมล่างตีเสมอคู่ต่อสู้ได้อย่างงดงาม ยังไม่หมดแค่นั้น นักเตะเยาวชนชาวอังกฤษยังมีสายตาเฉียบคมในการส่งผ่านบอลและมีทักษะในการฝ่าด่านคู่ต่อสู้อีกด้วย

โฟเด้นเป็นหนึ่งในนักเตะวัยรุ่นที่เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เลือกให้มาเป็นตัวจริงปะทะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และเรอัล มาดริด ในนัดพรีซีซั่นที่อเมริกา ชิงถ้วยไอซีซี 2017

ฟิลเกือบทำประตูได้ในขณะโรมรันกับเพื่อนบ้านคู่ปรับ

เป๊ป กวาร์ดิโอล่ากล่าวหลังจากฟิลแจ้งเกิดชั่วข้ามคืนจากการประจันหน้าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ว่า;"ผมไม่มีคำใดๆ มาบรรยาย ผมอยากหาคำที่เหมาะสมมาอธิบายในสิ่งที่ผมได้เห็น"

ผู้ชมเกมนี้ถือว่าโชคดีที่ได้เห็นการเล่นของเขาในเกมแรกร่วมชุดใหญ่แมนเชสเตอร์ ซิตี้

"เป็นเวลานานมากกว่าที่ผมจะได้เห็นอะไรแบบนี้ ฟอร์มของเขาอยู่ในอีกระดับ ทั้งๆ ทีเพิ่งอายุ17 ปี เขาคือนักเตะซิตี้ที่เติบโตจากอะคาเดมี่ เขารักสโมสรและเป็นแฟนซิตี้ตัวยง สำหรับเรา เขาคือของขวัญอันล้ำค่า"

ช่วงต้นฤดูกาล 2017/18 ฟิลได้ลงเล่นร่วมชุดใหญ่"เรือใบสีฟ้า" เป็นผู้เล่นสำรองในเกมเปิดซีซั่นเยือนไบรท์ตัน, เอฟเวอร์ตัน ในฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก และเวสต์บรอมในคาราบาว คัพ

นอกจากนี้ เขายังกลับไปช่วยทีมอีดีเอสที่คุมโดยกุนซือไซม่อน เดวีส์ เขาได้ทำประตูในนัดโค่นสวอนซี 3-1 และพังตาข่ายชัคเตอร์ โดเนตส์ ในยูฟ่า ยูธ ลีก คัพ ก่อนที่จะเดินทางไปลุยศึกฟีฟ่า เวิล์ด คัพ ยู-17 (รุ่นเยาวชนอายุไม่เกิน 17 ปี) ที่อินเดีย และได้เจิดจรัสกลายเป็นผู้เล่นดีเด่นประจำทัวร์นาเมนต์ หลังจากที่ทำสองประตูให้อังกฤษกำราบทีมชาติสเปน ร่วมสร้างประวัติศาสตร์ให้สิงโตคำรามชุดเล็กคว้าแชมป์บอลโลกเป็นครั้งแรก