เริ่มเกมมาเพียงแค่ 6 นาทีแรก ฟูแล่มก็โดนเสียแล้ว เมื่อ อิลคาย กุนโดกัน จ่ายทะลุให้ เชซุส แต่โดน ทิม รีม กัปตันทีมเยือนเหนี่ยวไหล่ล้ม เชิ้ตดำ เควิน เฟรนด์ ชูใบแดงกองหลังฟูแล่มและให้จุดโทษด้วย กุนโดกัน ยิงเรียดเสียบโคนเสาซ้ายสุดมือของ มาเร็ค โรดัค ให้แชมป์เก่า นำ 1-0
เจ้าถิ่นเปิดฉากบุกแบบไม่ยั้ง แบร์นาร์โด้ ซิลวา ล็อกหลบกองหลังหน้าเขตโทษ ก่อนสับด้วยซ้ายส่งบอลพุ่งเสียบเสา สุดปัญญาที่โรดัค จะป้องกันได้ แมนฯ ซิตี้ นำห่าง 2-0 ใน น. 19 ฟูแล่ม โดนบีบให้อยู่หน้าปากประตูตัวเองเกือบตลอด แม้เจ้าถิ่นไม่มีโอกาสเพิ่มมากนัก แต่ก็คุมสถานการณ์ไว้ได้อย่างเบ็ดเสร็จ หมดครึ่งแรก แชมป์เก่า นำอยู่ 2-0
ครึ่งหลังยังเดินหน้าไปแบบเรื่อยๆ ก่อนที่เป๊ป จะถอด มาห์เรซ ที่มีอาการเจ็บเข่าเล่นงานตั้งแต่ครึ่งแรก ในช่วง น. 53 และส่ง ราฮีม สเตอร์ลิง ลงช่วยเกมรุกแทน อีก 5 นาทีให้หลัง สเตอร์ลิง มีส่วนร่วมครั้งแรกจากลูกเปิดของ ดาบิด ซิลบา แต่ปีกทีมชาติอังกฤษซัดมุมแคบไปแฉลบคานออกหลังไป
เจ้าถิ่นเล่นไปตามจังหวะก่อนสอยประตูที่สาม สเตอรลิง แย่งบอลจากกองหลังแล้วคืนให้ ชูเอา กานเซโล่ เปิดเข้ากลาง เชซุส ขึ้นโหม่งกดลงพื้นเป็น 3-0 ใน น. 73 โดยเชิ้ตดำรอเช็กจังหวะล้ำหน้าเล็กน้อยก่อนเป่าเป็นประตู
ฟูแล่ม มาโดนเพิ่มอีกในน. 75 หลังเสียบอลหน้ากรอบเขตโทษตัวเอง ฟิล โฟเด้น กดด้วยซ้ายติดมือ โรดัค แต่บอลลอยมาตั้งให้เชซุส โขกซ้ำอย่างง่ายดายเป็น 4-0
หมดเวลา แมนฯ ซิตี้ พาเหรดเข้ารอบ 5 แบบสบายๆ เหนือ ฟูแล่ม ที่เหลือ 10 คนตั้งแต่ต้นเกมด้วยสกอร์ 4-0