การเปลี่ยนตัวลงมาในครึ่งเวลาหลัง ส่งให้เบลเยียมตีไข่แตกไล่มาได้ แต่ก็ไม่เพียงพอต่อชัยชนะในเกมชิงที่ 3 ศึกเนชั่นส์ ลีก

สองประตูในช่วงเวลาเพียง 13 นาที พิสูจน์แล้วว่าเพียงพอที่จะคว้าอันดับที่ 3 สำหรับแชมป์ยุโรปอย่างอิตาลี หลังได้เห็นจากการแข่งขัน 37 นัดที่ไม่แพ้ใคร จนมาพ่ายต่อสเปนสัปดาห์ที่ผ่านมา

เดอ บรอยน์ ซึ่งทำ 2 แอสซิสต์ ในเกมที่พ่ายฝรั่งเศส 3-2 รอบรองชนะเลิศ ถูกผู้จัดการทีม โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ ใส่ชื่อไว้บนม้านั่งสำรอง หลังจากลงตัวจริงในเกมกับทัพ เลอส์ เบลอส์

เกมเสมอกันไปในครึ่งแรกแบบไม่มีสกอร์ จนมาเปิดฉากครึ่งหลังได้เพียงนาทีเดียวเท่านั้น อิตาลี ขึ้นนำ 1-0 อย่างรวดเร็วจากจังหวะเตะมุมฝั่งขวาแนวรับ เบลเยียม สกัดบอลไม่ขาดมาเข้าทางปืนของ นิโคโล่ บาร์เลร่า หวดด้วยขวาตูมเดียวแบบไม่จับส่งบอลตุงตาข่าย

สถานการณ์ของเบลเยียมยิ่งยากขึ้นไปอีก เมื่อ อิตาลี โต้กลับมาและมาได้จุดโทษ เมื่อ ติโมธี คาสตาญ ไปหวดใส่ เฟเดริโก้ เคียซ่า ล้มลงในเขตโทษ ผู้ตัดสินมั่นใจชี้เป็นจุดโทษทันที ก่อนจะเป็น โดเมนิโก้ เบราร์ดี้ ที่รับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่พลาดให้ อิตาลี นำหางเป็น 2-0 ในนาที 65 

ทัพปีศาจแดงแห่งยุโรปที่ไม่มีทั้ง ลูกากู และ อาซาร์ แข้งซุปเปอร์สตาร์ที่ยังห่างไกลฟอร์มที่ดีที่สุด แต่พวกเขาไม่เคยหยุดพยายามโดย เดอ บรอยน์ ยังคงผลักดันพวกเขาบุกไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง

ในนาทีที่ 82 สตาร์ซิตี้สร้างโอกาสในช่วงท้ายให้ยานนิค การ์ราสโก้ ครอสบอลข้ามกรอบเขตเพื่อให้คาร์ราสโก้ทำประตูจากเสาไกล

ความพยายามของเบลเยียมมาประสบผลสำเร็จในช่วงท้ายเกมนาทีที่ 86 พวกเขาตามตีไข่แตกไล่มาเป็น 1-2 เควิน เดอ บรอยน์ แทงทะลุช่องให้ ชาร์ล เดอ แคทเทอเลียร์ ดาวรุ่งวัย 20 ปี หลุดเดี่ยวมายิงลอดขา จานลุยจิ ดอนนารุมม่า เข้าประตูไป 

เวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม อิตาลี ชนะ เบลเยียม 2-1 คว้าอันดับ 3 ศึกยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ไปครอง

สำหรับเดอ บรอยน์ ลงเล่นไปทั้งหมด 120 นาที ในยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ทำแอสซิสต์ให้เพื่อนร่วมทีมได้ทั้งหมด 3 ครั้ง

CITY+ | SIGN UP TO ACCESS EXCLUSIVE CONTENT