เฟร์ราน ตอร์เรส ซัดเบิกร่องให้กับซิตี้ก่อนหลังจากเริ่มครึ่งหลัง ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ซัดอีกลูกในช่วงทดเวลา แต่ประตูของอเกวโร่ ถือเป็นเรื่องโดดเด่นที่สุดในเกมนี้ หลังจากที่เขาลงมายิงจากม้านั่งสำรอง
เกิดอะไรขึ้นบ้าง?
เปิดฉากครึ่งแรกมาได้แค่ 8 นาที “เรือใบสีฟ้า” ได้ลุ้นก่อนเลยหลัง แบร์นาร์โด ซิลวา แทงบอลให้ ริยาด มาห์เรซ หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปซัดด้วยซ้ายแต่บอลยังไปติดตัว สตีฟ ม็องด็องด้า ออกหลังไป
เกมรุกเจ้าถิ่นมาดุโหมบุกเข้าใส่มาร์กเซยอย่างหนัก นาที 12 แบร์นาร์โด ซิลวา เรียกฟรีคิกทางด้านขวา ก่อนที่ อิลคาย กุนโดกัน จะเปิดไปกลางประตูให้ อายเมริค ลาปอร์กต์ ข้ามคานออกไปนิดเดียว
นาทีที่ 30 ดิมิทรี ปาเยต หลุดเข้าไปดีดไซด์ก้อยมุมแคบผ่านมือ แซ็ค สเตฟเฟ่น เข้าไปแล้ว แต่ผู้ตัดสินเป่าเป็นล้ำหน้าไปก่อนทำให้ชวดขึ้นนำอย่างน่าเสียดาย
ช่วงทดเจ็บ นาที 45+2 ฟิล โฟเด้น ได้กดด้วยซ้ายจากด้านซ้ายของกรอบแต่บอลก็ยังไม่ผ่านมือ สตีฟ ม็องด็องด้า จบครึ่งแรก แมนฯซิตี้ ยังทำอะไร มาร์กเซย ไม่ได้เสมอกันแบบไร้สกอร์ 0-0
ครึ่งเวลาหลัง
ครึ่งหลัง นาที 48 “เรือใบสีฟ้า” มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะตะลุยเลี้ยงบอลเข้าไปของ ริยาด มาห์เรซ ก่อนแทงทะลุช่องให้ เฟร์ราน ตอร์เรส สอดเข้ามายิงด้วยขวาลอดแขน สตีฟ ม็องด็องด้า เข้าไป
เจ้าถิ่นเร่งกดดันและบุกเข้าใส่อย่างต่อเนื่อง นาที 65 ไคล์ วอล์คเกอร์ ได้ลองกดด้วยขวาเท้าถนัดจากนอกกรอบแต่บอลยังไปโดน ม็องด็องด้า ล้มตัวปัดออกไป
นาที 77 เจ้าถิ่นมาได้ประตูนำห่างเป็น 2-0 บอลจากลูกเตะมุม ฟิล โฟเด้น เปิดมากลางประตูให้ นาธาน อาเค่ โขกเต็มหัวไปติดเซฟของ สตีฟ ม็องด็องด้า แต่บอลยังไปเข้าทางปืน “กุน” อเกวโร่ ซัดเข้าไปไม่พลาด
นาทีที่ 90 “เรือใบสีฟ้า” มาได้ประตูนำห่าง 3-0 จากจังหวะที่ ราฮีม สเตอร์ลิง ตัวสำรองที่ลงมาครึ่งหลังเก็บตกจังหวะที่ สตีฟ ม็องด็องด้า รับไว้ไม่อยู่ตามซ้ำเข้าไป
จบเกม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านเอาชนะ มาร์กเซย 3-0 ซิวแชมป์กลุ่มด้วยการมี 16 คะแนน ควงปอร์โต้ที่มี 13 คะแนนเข้าไปเล่นในรอบ 16 ทีมสุดท้าย
และนั่นเป็นประตูที่ 1,000 ของซิตี้ ณ เอติฮัด สเตเดียม ถือเป็นตัวเลขหลักที่มากเลยทีเดียว!
🏟️ Ferran Torres has scored the 1,000th goal for @ManCity at Etihad Stadium, in their 445th game in all competitions since moving to the ground
— Sky Sports Statto (@SkySportsStatto) December 9, 2020
🔵 Trevor Sinclair scored their first competitive goal at the stadium, against The New Saints in the UEFA Cup in August 2003 #UCL pic.twitter.com/bSKKt2gqFY
คาดเดาขุนพลที่เตรียมไว้สำหรับดาร์บี้แมตซ์
เป๊ป กวาร์ดิโอล่า อาจต้องเจอกับปัญหาการเลือกกองหลัง ลงใช้งานสำหรับแมนเชสเตอร์ดาร์บี้ แต่นั่นคงไม่ทำให้เขาคิดมากเท่าไหร่
อายเมริค ลาปอร์กต์ ได้ลงมาคุมหลังบ้านในเกมนี้ หลังได้หยุดพักไปในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งในช่วงที่เขาไม่อยู่จอห์น สโตนส์ ก็ทำได้ดีเช่นกัน
เช่นเดียวกันกับ รูเบน ดิอาส และแน่นอนว่าการจับคู่ลงสนามทั้งกับลาปอร์กต์ และสโตนส์ เป็นเรื่องยากที่จะตัดสินใจแน่นอน
คลีนชีท 5 เกมติดต่อกัน
ตอนนี้ซิตี้ผ่านไปห้าเกมโดยไม่เสียประตูเลยแม้แต่ประตูเดียว
การปิดประตูห้ามยิงแบบนี้ บ่งบอกได้ถึงคุณภาพในแนวรับของเรา ซึ่งตรงกันข้ามกับปัญหาในการตั้งรับของเราเมื่อฤดูกาลที่แล้ว
กองหลังของเรากำลังเล่นด้วยความมั่นใจ ยิ่งไปกว่านั้นทัั้งอาเก้ และสเตฟเฟ่น แม้จะไม่ได้ลงมาหลายวีค แต่วันนี้พวกเขาก็พิสูจน์แล้วว่าทำได้ดีเช่นกัน
หมายความว่าอย่างไร…
เกมนี้ไม่มีผลอะไรกับซิตี้ที่ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายแล้ว - แต่กระนั้นซิตี้ ผ่านเข้ารอบแบ่งกลุ่มได้ดีที่สุดโดยมี 16 คะแนนจาก 18 คะแนนเต็ม
โปรแกรมต่อไป?
งานต่อไปของเราคือศึกแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้แมตซ์ ณ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ซึ่งซิตี้มีโจทย์ให้ล้างแค้นหลังพ่ายมาในครั้งล่าสุด 2-0 เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
เริ่มคิกออฟ เที่ยงคืนครึ่ง วันเสาร์นี้
หลังเกมจากกวาดิโอล่า
“ ใช่ครับ ผมมีความสุขจริงๆ
“ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิธีที่เราเล่นเกมทั้งหมด โดยไม่เสียประตู
“ เรายิงประตู เราเสียประตูเพียงลูกเดียวในรอบนี้ และโดยทั่วไปแล้วมันเป็นผลงานที่ดี
“ เราอยู่ในรอบต่อไปและเราเห็นแล้วว่า ทุกทีมที่ผ่านเข้ารอบนั้นยอดเยี่ยมมาก
“ มันจะเป็นการจับฉลากที่น่าสนใจมาก ขอให้เราโชคดี “
หลังเกมจากแบร์นาร์โด้
“มันเป็นเกมที่ดี เรารู้ดีว่าเราผ่านเข้ารอบมาแล้ว แต่ก็ยังดีที่จะจบด้วยการชนะ 3-0 ในบ้าน
“เรามีความสุขและตอนนี้เราอยู่ในรอบต่อไป
“เราอยู่ใน 16 ทีมสุดท้ายและเป้าหมายของเราคือต้องทำให้ดีกว่าที่เราทำได้ในสามฤดูกาลที่ผ่านมา
“ตอนนี้เราชนะไม่กี่เกมแล้วและเมื่อคุณชนะเป็นประจำมันง่ายกว่าที่จะชนะอีกครั้งและชนะอีกครั้ง
“เป็นเรื่องดีเราต้องการรักษาโมเมนตัมต่อไป เรามีเกมที่ยากกับยูไนเต็ด แต่เราต้องการชนะต่อไป”
ไลน์-อัพ
แมนฯซิตี้ : แซ็ค สเตฟเฟ่น - ไคล์ วอล์คเกอร์, อายเมริค ลาปอร์กต์, เอริค การ์เซีย (จอห์น สโตนส์ น.28), นาธาน อาเค่ - แฟร์นันดินโญ่, อิลคาย กุนโดกัน (ราฮีม สเตอร์ลิง น.46) - ริยาด มาห์เรซ (เซร์คิโอ อเกวโร่ น.67), แบร์นาร์โด้ ซิลวา, ฟิล โฟเด้น - เฟร์ราน ตอร์เรส
สำรอง : คาร์สัน, เฆซุส, อเกวโร่, เดอ บรอยน์, เมนดี้, กันเซโล่, เอ็นเมช่า, ดอล์ย, พาลเมอร์, เบอร์นาเบ้
โอลิมปิก มาร์กเซย : สตีฟ ม็องด็องด้า - ฮิโรกิ ซากาอิ, อัลบาโร่ กอนซาเลซ, เลโอนาร์โดบาแลร์ดี้, ยูโตะ นางะโตโมะ - บูบาการ์ กามาร่า (วาล็องแต็ง ร็องกิเย่ร์ น.67) - ฟลอริยง โตแว็ง (มาร์เลย์ อาเก้ น.75), มอร์กกาน ช็องซง, ปาเป้ เกเย่ (เควิน สตรูทมัน น.75), วาเลเร่ แชร์กแมง (ดาริโอ เบเนเด็ตโต้ น.75) - ดิมิทรี ปาเยต (มิกาเอล กุยซองต์ น.67)
สำรอง: เดอ ลิม่า, คาเต้า-คาร์, เปเล่, คาอูย, เปอร์แรง, วานนี่
1 - Manchester City conceded just one goal in the UEFA Champions League group stage this season, the joint-fewest by any side in a single group stage in the competition, and the fewest by an English side since Man Utd in 2010-11. Clinic. pic.twitter.com/5ra0nglesq
— OptaJoe (@OptaJoe) December 9, 2020