ซิตี้ ประเดิมรัววีคอมบ์ 6-1 ลิ่วคาราบาว คัพ

Men's Team

MATCH OF THE SEASON: City v Chelsea 1977

ในอีกคืนหนึ่งที่แข้งดาวรุ่งถึง 6 คน ได้เปิดตัวกับทีมชุดใหญ่ให้กับซิตี้ ซึ่งทุกคนได้โชว์ และปล่อยของกันต่อหน้าแฟน ๆ ที่เอติฮัด กับทีมอย่างวีคอมบ์ มากกว่าการได้เล่นเป็นส่วนหนึ่งของทีม

เกิดอะไรขึ้นบ้าง?

ซิตี้ออกสตาร์ทด้วย 5 นักเตะดาวรุ่งที่ได้ลงประเดิมสนามนัดแรก และ มีการเปลี่ยนแปลงผู้เล่น 10 ตำแหน่งจากเกมที่แล้ว

ซีเจ อีแกน-ไรเลย์, ลุค เอ็มเบเต้, ฟิน เบิร์นส์, จอช วิลสัน-เอสแบรนด์ และโรเมโอ ลาเวีย ได้โอกาสลงประเดิมสนาม และลงเล่นด้วยความมั่นใจ

ผู้มาเยือนอย่างวีคอมบ์ นำทีมโดยอเดบาโย อาคินเฟนว่า ทำผลงานได้ดีในช่วงต้นเกม 20 นาทีแรก มีโอกาสทำประตูได้ 2-3 ครั้ง, ในขณะที่โอกาสที่ดีที่สุดของซิตี้คือลูกโหม่งของเฟร์ราน ตอร์เรส

แต่แล้วประตูแรกก็ตกเป็นของ "Chairboys" หลังจากซิตี้เคลียร์ลูกเตะมุมไม่ขาด จึงถูกแบรนดอน ฮันลันลงโทษในนาทีที่ 22

ให้นำได้ไม่นานนาทีที่ 29 "เรือใบสีฟ้า" ตามตีเสมอเป็น 1-1 ฟิล โฟเด้น โชว์ลีลาลาแหวกขึ้นมาได้ช่องแทงออกซ้ายให้ เควิน เดอ บรอยน์ ตามมาเก็บบอลในเขตโทษลากตัดเข้าในซัดด้วยขวาลอดขา แนวรับ วีคอมบ์ เสียบหน้าต่างเสาไกลงามหยด

เข้าสู่ช่วงนาทีที่ 33 คราวนี้เป็น ฟิล โฟเด้น พาบอลกระชากหนีแนวรับ วีคอมบ์ ก่อนป้ายย้อนให้ ราฮีม สเตอร์ลิง ลากตัดเข้าในก้มหน้าปั่นด้วยขวาโค้งไปชนเสาเด้งมาชนหลัง เดวิด สต็อคเดล หยุดอยู่หน้าปากประตู

ก่อนหมดครึ่งแรก 5 นาทีจากจังหวะสวนกลับ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ลากกินแดนขึ้นมาดึงจังหวะปาดออกซ้ายให้ เฟร์ราน ตอร์เรส เอียงตัวปั่นด้วยขวาก็ยังเบาติดเท้า เดวิด สต็อคเดล ล้มตัวเซฟเอาไว้ได้

ถัดมาในนาทีที่ 43 แมนฯ ซิตี้ แซงออกนำเป็น 2-1 จากจังหวะทางซ้ายของ จอร์จ วิลสัน กระชากเข้าเขตโทษเอาชนะ เจสัน แม็คคาร์ธี่ ก่อนตบย้อนมาหน้ากรอบ 6 หลาให้ ริยาด มาห์เรซ วิ่งมาซัดด้วยซ้ายเข้าไปไม่พลาด

ก่อนจบครึ่งแรก "เรือใบสีฟ้า" หนีห่างเป็น 3-1 จากลูกเตะมุมเล่นสั้นทางฝั่งขวา ริยาด มาห์เรซ จ่ายมาหน้ากรอบเขตโทษให้ ฟิล โฟเด้น ขยับมารับตั้งป้อมตะบันด้วยซ้ายติดเซฟ เดวิด สต็อคเดล ปัดไม่พ้นพุ่งซุกก้นตาข่ายงามหยด จบครึ่งแรกแมนฯ ซิตี้ 3 วีคอมบ์ 1

เปิดฉากครึ่งหลัง "เรือใบสีฟ้า" เร่งเครื่องทันทีหวิดบวกสกอร์เพิ่มจากลูกยิงของ ริยาด มาห์เรซ และจังหวะสอดมาโขกของ ฟิล โฟเด้น แต่ก็ยังไม่ผ่านมือ เดวิด สต็อคเดล เซฟช่วยเอาไว้ได้หมด

เกมเข้าสู่ช่วง 1 ชท. เต็ม แมนฯ ซิตี้ พับสนามบุกอยู่ข้างเดียว เควิน เดอ บรอยน์ กระชากแหวกขึ้นมาทางซ้ายพาเข้าเขตโทษก่อนซัดด้วยขวาเสียดายเบาไปตรงตัว เดวิด สต็อคเดล ล้มตัวรับไว้ได้ไม่พลาด

ซิตี้เกือบเสียบ้าง นาทีที่ 69 แผงแนวรับดาวรุ่ง "เรือใบสีฟ้า" มีพลาดเหมือนกันปล่อยให้ จอร์แดน โอบิต้า หลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษได้ล่อเป้า แซค สเตฟเฟ่น แต่ต้องชมนายด่านชาวสหรัฐฯออกมาปิดมุมช่วยเซฟไว้ได้หวุดหวิด

แต่แล้วจังหวะต่อมา ในนาทีที่ 71 กลายเป็น เจ้าถิ่น ทิ้งห่างเป็น 4-1 ฟิล โฟเด้น ขยับมารับบอลจาก เควิน เดอ บรอยน์ ในเขตโทษฝั่งซ้ายก่อนปาดถวายพานไปเสาไกลให้ เฟร์ราน ตอร์เรส ชาร์จด้วยขวาเบียดเสาเข้าไปไม่เหลือ

เข้าสู่นาทีที่ 81 "เรือใบสีฟ้า" ขยับนำห่างอีกเป็น 5-1 เควิน เดอ บรอยน์ โชว์เหนือแทงบอลสุดสวยเข้าเขตโทษให้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง หลุดมาทางซ้ายก่อนตบย้อนให้ ริยาด มาห์เรซ มาที่จุดนัดพบแปบอลเข้าไปแบบง่ายดาย

ท้ายเกมนาทีที่ 89 เจ้าถิ่น ปิดกล่องให้แฟน ๆ ได้ชื่นใจคราวนี้เป็น  โคล พัลเมอร์ ตัวสำรองที่จัดการกระชากแหวกขึ้นมาจากครึ่งสนาม ก่อนเอี้ยวตัวปั่นด้วยซ้ายผ่านมือ เดวิด สต็อคเดล เข้าประตูสุดงามไม่แพ้ลูกอื่น ๆ จบเกมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ประเดิมภารกิจป้องกันแชมป์คาราบาว คัพ ในซีซั่นนี้ ไปได้อย่างสวยงาม เอาชนะวีคอมบ์ วันเดอร์เรอร์ส 6-1 

แมน ออฟ เดอะ แมตซ์

ยอดเยี่ยมมากที่ได้เห็นโฟเด้นกลับมาคืนฟอร์ม ประตูอันน่าทึ่งและอีก 2 แอสซิสต์จากหมายเลข 47 ของเรา!

หมายความว่าอย่างไร

ซิตี้ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย คาราบาว คัพ

การจับฉลากจะจัดขึ้นที่ช่อง Sky Sports หลังจากการแข่งขันในเย็นวันพรุ่งนี้

โปรแกรมถัดไป?

ซิตี้จะบุกไปเยือนเชลซีที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ ในวันเสาร์นี้ อันเป็นการเริ่มในช่วง 8 วันสุดโหด กับแมตซ์ต่อมาที่ต้องไปเยือนเปแอสเช และลิเวอร์พูลต่อไป

ไลน์-อัพ

แมนฯ ซิตี้ : แซ็ค สเตฟเฟ่น - คอนราด โจนาธาน อีแกน-ไรลีย์, ฟินเลย์ เบินส์, ลุค เอ็มบีเต้-ทาบู, จอร์จ วิลสัน (เจมส์ แม็คอาตี้ น.72) - เควิน เดอ บรอยน์, โรเมโอ ลาเวีย, ฟิล โฟเด้น - ริยาด มาห์เรซ, เฟร์ราน ตอร์เรส (โคล พัลเมอร์ น.72), ราฮีม สเตอร์ลิ่ง

สำรอง: คาร์สัน, ดิอาส, เฆซุส, แบร์นาร์โด้, กันเซโล่

 วีคอมบ์ : เดวิด สต็อคเดล - เจสัน แม็คคาร์ธี่, แอนโธนี่ สจ๊วร์ต, ไรอัน ทาฟาซอลลี่, โจ เจค็อบสัน - โดมินิค เกป (จอช สโคเวน น.75) - เดวิด วีลเลอร์, จอร์แดน โอบิต้า, ซัลเลย์ ไคไค (ดาริล ฮอร์แกน น.68) - อเดบาโย อคินเฟว่า (แซม โวคส์ น.65), แบรนดอน ฮันแลน