แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พลาดการได้จุดโทษจากการตรวจสอบ VAR ส่วนซิตี้ พลาดโอกาสทองจากริยาด มาห์เรซ ที่ซัดไปติดเซฟของดาวิด เด เคอา
เกิดอะไรขึ้นบ้าง?
เป็น 45 นาทีแรก ที่ชัดเจนว่าทั้งสองทีมเล่นกันอย่างรัดกุมในศึกแมนเชสเตอร์ดาร์บี้ ครั้งที่ 183 แมนฯยูไนเต็ด มีเพิ่มเป็น 20 คะแนนอยู่อันดับ 7 ส่วน แมนฯซิตี้ ขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 8 มี 19 คะแนน
ครึ่งแรก นาที 12 “ผีแดง” เกือบได้ลุ้นขึ้นนำหลัง ลุค ชอว์ เปิดเตะมุมมาเสาแรกให้ วิคตอร์ ลินเดเลิฟ โขกเช็ดไปเสาไกล สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ พยายามเข้าชาร์จแต่มาช้าไป บอลเลยออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
สคริปมาที่นาทีที่ 35 แมนฯซิตี้ ชวดได้ประตูออกนำหลังบอลสวนเร็วของ กาเบรียล เชซุส ควบบอลขึ้นมาก่อนจ่ายเข้ากลางให้ เดอ บรอยน์ แทงเร็วลอดขา ลุค ชอว์ ไปให้ ริยาด มาห์เรซ ซัดด้วยซ้ายแต่ยังไปติดขา ดาบิด เด เคอา บอลไปเข้าทาง เดอ บรอยน์อีกครั้งแต่ห้องเครื่องชาวเบลเยียมยิงเหินคานไปอย่างน่าเสียดาย
จบครึ่งแรก ทั้งสองทีมเล่นกันอย่างรัดกุมมาก ไม่มีใบเหลือง และไม่มีประตูเกิดขึ้น แมนฯ ยูไนเต็ด ยังเสมอกับ แมนฯ ซิตี้ 0-0
เริ่มครึ่งหลัง
กลับมาเล่นต่อในครึ่งหลัง นาที 48 บรูโน่ แฟร์นันด์ส ครอสบอลมาถึงหน้าประตูให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด แตะบอลหลบก่อนโดน ไคล วอร์คเกอร์ เข้ามาสอยร่วงไปนอนกับพื้น ผู้ตัดสินเป่าเป็นจุดโทษ ทว่ามีสัญญาณจากห้อง วีเออาร์ ว่าเป็นจังหวะที่แรชฟอร์ด ยืนล้ำหน้าไปก่อนทำให้ชวดได้ลูกที่จุดโทษอย่างน่าเสียดาย
เกมผ่าน 1 ชม. เต็ม ลูกทีมของเป๊ปมีลุ้นชิงขึ้นนำเหมือนกันหลัง ชูเอา กันเซโล่ จ่ายตัดหลังให้ กาเบรียล เชซุส หลุดเข้าไปดวลกับ เด เคอา แต่ไม่มีมุมยิงเลือกจ่ายให้ เควิน เดอ บรอยน์ ซัดไปติดบล็อค แฮร์รี่ แม็กไกวร์
ท้ายเกม นาที 80 ทีมเยือนมาได้ลุ้นฟรีคิกกว่า 25 หลานอกกรอบ แต่เควิน เดอ บรอยน์ ยิงไปติดกำแพง
ถัดมานาที 88 มาร์กซิยาล แทงบอลขึ้นหน้าให้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส พลิกกลับตัวแล้วซัดด้วยขวาแต่บอลยังไม่แรงพอและไปตรงตัว เอแดร์ซอน รับไว้ได้
จบเกม ทำอะไรกันไม่ได้ แมนฯ ยูไนเต็ด เสมอกับ แมนฯ ซิตี้ แบบไร้สกอร์ 0-0 แบ่งแต้มกันไปทีมละคะแนน
ซิตี้ที่แตกต่างออกไป?
ซิตี้ที่เราเคยเห็นในช่วงนี้ อาจเป็นหนึ่งในยุคที่ได้รับการยกย่องในเกมรับของเป๊ป กวาดิโอล่า ก็เป็นได้
เป็นเรื่องยากที่จะเห็นแนวทางที่ระมัดระวังของฝั่งกวาดิโอล่า แต่ก็ถือว่ามีการเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์อย่างชัดเจนสำหรับเกมนี้ ด้วยความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ที่จะจำกัด,สกัด ทุกการโจมตีของยูไนเต็ด
นั่นหมายถึงซิตี้ มีการเดินเกมบุกน้อยกว่าโดย โดยยูไนเต็ดดูแฮปปี้กับการครองบอลและโอกาสยิง
6 คลีนชีตต่อเนื่องเป็นสิ่งที่น่าประทับใจในทุกมาตรฐาน และหากเกมรับคือจุดอ่อนของฤดูกาลที่แล้ว มันจะไม่ใช่ปัญหาในฤดูกาลนี้อีกต่อไป
หากเราทำประตูได้เป็นกอบเป็นกำมากขึ้น จนเข้าสู่ช่วงปีใหม่ ซิตี้คงจะอยู่ในช่วงการแข่งขันที่หนาแน่นอีกครั้ง ในเดือนพฤษภาคมปีหน้า
ไม่มีแฟนบอล , ไม่มีความเข้มข้น
ดาร์บี้แมตซ์นั้น ขับเคลื่อนโดยแฟนบอลเป็นที่ตั้งอยู่แล้ว ซึ่งในทางกลับกัน มันสามารถยกระดับและขับเคลื่อนทีมได้ในเกมด้วยซ้ำ
โอลด์ แทรฟฟอร์ด แบบเต็มรูปแบบน่าจะยืนยันได้ว่ายูไนเต็ด จะโจมตีได้มากขึ้นและมีโอกาสมากขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่การเปิดกว้างและความผิดพลาดมากขึ้นในเกม
หวังว่านี่จะเป็นแมนเชสเตอร์ดาร์บี้ครั้งสุดท้าย ที่ไม่มีแฟนบอลเข้าชม เพราะดาร์บี้ที่ไม่มีแฟนก็ไม่รู้สึกเหมือนเป็นดาร์บี้จริง ๆ
ฮีโร่
จอห์น สโตนส์ พิสูจน์ตัวเองในซีซั่นนี้ได้สำเร็จ ด้วยการยืนเซ็นเตอร์ที่มั่นคง นิ่ง และมั่นใจในทุกจังหวะสกัด
หมายความว่าอย่างไร
แมนฯยูไนเต็ด มีเพิ่มเป็น 20 คะแนนอยู่อันดับ 7 ส่วน แมนฯซิตี้ ขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 8 มี 19 คะแนน ในตารางพรีเมียร์ลีก
โปรแกรมต่อไป
ซิตี้เตะต่อในวันอังคารนี้ ในเกมพรีเมียร์ลีกกับเวสบรอมฯ เริ่มเตะ 03.00 น. เป็นต้นไป
และต่อเนื่องทันทีในวันเสาร์ เราจะออกไปเยือนเซาท์แธมป์ตัน ณ เซนต์ แมร์รี่ เริ่มคิกออฟ 22.00 น.
เป๊ป หลังเกม
“ ผมไม่ได้รู้สึกเหมือนเล่นในบ้าน แต่ที่นี่เรารู้ว่า เราสามารถแสดงความดุดันได้มากกว่านี้ แต่เมื่อคุณโจมตีพวกเขาสามารถลงโทษคุณได้จากการโต้กลับเช่นกัน”
“ เราอยากจะมีโอกาสมากกว่านี้ แต่เราก็มีโอกาสที่มาห์เรซ ได้ดวลหนึ่งต่อหนึ่ง”
“ เราต้องเริ่มสร้างมันจากจุดนี้ หากไม่มีผู้ชม ดูเหมือนว่าจะขาดความเข้มข้น แต่จากข้างสนาม ผมเห็นผู้เล่นต่อสู้กันด้วยใจ”
“ มันเป็นจุดที่ดี ผมอยากจะชนะ แต่โอเคมันเป็นโอลด์ แทรฟฟอร์ด ที่ยังทำเราเข็ดอยู่ไม่ลืม”
“ พวกเขาเร็วมาก มันคือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ส่วนใหญ่ของเกมเราทำได้ดี เราขาดโอกาสเล็กน้อยในการทำประตู แต่เราทำได้ดี”
สโตนส์ หลังเกม
“ มันเป็นเกมที่ยากสำหรับทั้งสองฝ่ายเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเราที่ต้องมาที่นี่ “
“ เห็นได้ชัดว่าการไม่มีแฟน ๆ ที่นี่ ดังนั้นมันจึงเป็นบรรยากาศที่แตกต่างออกไป”
“ เราทั้งคู่ไม่ได้สร้างโอกาสมากนัก แต่ทั้งคู่ป้องกันได้ดีมากซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งคลีนชีตสำหรับเรา ก็ถือเป็นเรื่องดี “
“ ผมผิดหวังที่เราไม่ได้หนีไปมากกว่านี้ แต่เราก็ต่อสู้ได้ดีมากและผมก็ภูมิใจที่เพื่อน ๆ วิ่งลงมาช่วยกันได้ดีจากแดนหน้า เมื่อมาถึงจุดหนึ่ง ผมก็คิดว่าเราควรต้องยินดี”
“ เวลาเราแข่งกับใครก็ตาม แน่นอนมันเป็นความท้าทาย มันเป็นทางตันเล็กน้อยในหลาย ๆ ด้าน แต่เรายังมีเวลามากมายในการแสดงออกมาให้เห็น”
ไลน์-อัพ
แมนฯ ซิตี้ : เอแดร์ซอน โมราเอส - ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตนส์, รูเบน ดิอาส, เจา กันเซโล่ - โรดริโก้, แฟร์นันดินโญ่ - ริยาด มาห์เรซ (เฟร์ราน ตอร์เรส น.66), เควิน เดอ บรอยน์, ราฮีม สเตอร์ลิง - กาเบรียล เฆซุส
สำรอง: สเต็ฟเฟ่น, กุนโดกัน, ลาปอร์กต์, แบร์นาร์โด้, เมนดี้, โฟเดน
แมนฯ ยูไนเต็ด : ดาบิด เด เคอา - แอรอน วาน-บิสซาก้า, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, วิคตอร์ ลินเดเลิฟ, ลุค ชอว์ - เฟร็ด - ปอล ป็อกบา, สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ - บรูโน่ แฟร์นันด์ส - เมสัน กรีนวู้ด (อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล น.74), มาร์คัส แรชฟอร์ด
สำรอง: ไบญี่, มาต้า, เฮนเดอร์สัน, เตลเลส, มาติช, ฟาน เดอ เบค
สถิติจากเกม
- คลีนชีตต่อเนื่อง 6 นัด เป็นสถิติใหม่ของสโมสร
- นี่เป็นการเสมอกันครั้งแรกในการพบกัน 9 ครั้งหลังสุด
- นับจาก 150 ครั้งล่าสุดของแมนเชสเตอร์ดาร์บี้ - ยูไนเต็ดชนะ 58 ซิตี้ชนะ 45 และเสมอกัน 47 ครั้ง
- ลูกทีมของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า เก็บคลีนชีตได้ 3 นัดติดต่อกันในลีก เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2019
- แข้งอังกฤษคนสุดท้าย ที่เคยทำประตูได้ในแมนเชสเตอร์ดาร์บี้ ที่พบกันในลีก คือเจมส์ มิลเนอร์ เมื่อปี 2013