ตอร์เรสแฮตทริก! ซิตี้บุกเชือดนิวคาสเซิ่ลมันส์หยด

มีถึง 7 ประตู เกิดขึ้นด้วยกันที่เซนต์ เจมส์ ปาร์ค ในเกมพรีเมียร์ลีก นัดที่ 36 หลังจากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์ปีนี้มาครองได้สำเร็จแล้ว

แต่ชัยชนะจากนัดนี้ ยังสร้างสถิติใหม่ให้ซิตี้ได้อีกครั้งด้วยการเป็นทีมแรก ที่เอาชนะได้ในเกมเยือน 12 นัดติดต่อกัน

เกิดอะไรขึ้นบ้าง?

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า พาทีมคว้าดับเบิ้ลแชมป์ทั้งพรีเมียร์ลีก และคาราบาว คัพไปแล้ว แต่ยังเหลือลุ้นแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่จะชิงกับ เชลซี ปลายเดือนนี้อีกแมตช์ ทว่าเกมนี้พักตัวหลักหลายคน แนวรุกสามคนใช้ เฟร์ราน ตอร์เรน, กาเบรียล เชซุส และราฮีม สเตอร์ลิง ขณะที่ผู้รักษาประตูวันนี้เปิดโอกาสให้ สกอตต์ คาร์สัน มือสามวัย 35 ปี ของทีมลงสนามพรีเมียร์ลีกเป็นเกมแรกในรอบ 10 ปี 

แค่นาทีที่ 7 แมนฯซิตี้ เกือบสร้างโอกาสขึ้นนำได้ก่อน กาเบรียล เชซุส เก็บบอลจากนอกกรอบก่อนจะวอลเลย์สวนเข้าไป บอลพุ่งหลุดกรอบแบบได้เสียว

ยังเป็น “เรือใบสีฟ้า” ที่ได้ลุ้นต่อเนื่อง นาที 13 อิลคาย กุนโดกัน แทงบอลทะลุให้ ชูเอา กานเซโล่ ถึงเส้นหลังก่อนหักมาเสาแรกให้ เฟร์ราน ตอร์เรส โฉบมาซัดหลุดเสาแรกออกไป นาที 20 เป็นโอกาสส่องเข้ากรอบหนแรกของทัพเรือใบ ชูเอา กานเซโล่ พาบอลเข้ากลางหนี ยาค็อบ เมอร์ฟี่ ก่อนจะสับไกซัดเสาแรกแต่ยังเลียดไปเข้าซอง มาร์ติน ดูบราฟก้า

แต่กลายเป็น “สาลิกาดง” โอกาสลุ้นเข้ากรอบหนแรกเป็นประตูขึ้นนำ 1-0 ทันที ในนาที 25 จากจังหวะลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย จอนโจ้ เชลวี่ เปิดบอลมาเข้าหัว เอมิล คราฟธ์ หนีนาธาน อาเค่ขึ้นโขกบอลผ่านมือ สกอตต์ คาร์สัน เข้าไป 

ถัดมาในนาที 39 แมนฯซิตี้ มาทวงประตูตีเสมอ 1-1 สำเร็จ บอลจาก โรดรี้ จ่ายคืนหลังให้ ชูเอา กานเซโล่ วิ่งมาอัดด้วยขวาเต็มแรงบอลพุ่งไปแฉลบขา ยาค็อบ เมอร์ฟี่ พุ่งเสียบเสาไกล เป็นเครดิตทำประตูของ ชูเอา กานเซโล่ ซึ่งเป็นประตูที่ 2 ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้

เข้าสู่ช่วงท้ายครึ่งแรก นาที 42 เรือใบสีฟ้า มาพังประตูแซงขึ้นนำ 2-1 บอลฟรีคิกทางด้านซ้ายจาก อิลคาย กุนโดกัน เปิดมาเสาแรกให้ เฟร์ราน ตอร์เรส กระโดดยิงท่ายากดีดบอลด้วยขวาผ่าน มาร์ติน ดูบราฟก้า เข้าไป วีเออาร์เช็กไม่ล้ำหน้ายืนยันให้ประตู

กระนั้น ช่วงทดเจ็บ นาที 45+4 อัลล็อง แซงต์-มักซิแม็ง หลุดเดี่ยวเข้าไปก่อนจ่ายให้ โชลินตอน ทว่ามาโดน นาธาน อาเค่ พุ่งมาสไลด์ไม่โดนบอลกลายเป็นโดนขาโชลินตอน ผู้ตัดสินเช็กทีแรกก่อนว่าเป็นล้ำหน้าของ แซงต์-มักซิแม็ง หรือไม่? ซึ่งปรากฎว่าไม่ล้ำ ก่อนจะมาเช็กความเป็นไปได้ว่าจะเป็นจุดโทษหรือไม่? ซึ่ง เควิน เฟรนด์ หลังคุยกับทีมวีเออาร์และเช็กภาพแล้วยืนยันให้จุดโทษเจ้าถิ่น ก่อนจะเป็น โชลินตอน ตะบันจุดโทษเต็มแรงเข้าไปให้ “สาลิกาดง” ไล่ตีเสมอ 2-2 ก่อนที่ครึ่งแรกจะจบลงด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลังสตาร์ท ในนาที 61 แนวรับของเรือใบมาพลาดท่าอีกคราวนี้เป็น ไคล์ วอล์คเกอร์ ที่เล่นไม่ละเอียดไปเข้าฟาวล์ใส่ โจ วิลล็อค ที่กระชากหลุดเข้าไปล้มลงในเขตโทษ ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษทันที และเป็น โจ วิลล็อค ที่ลุกมาสังหารเองแต่ยิงไปติดเซฟ สกอตต์ คาร์สัน ทว่าบอลยังไปเข้าทาง วิลล็อค ตามซ้ำเข้าไปไม่พลาด ให้ นิวคาสเซิ่ล แซงขึ้นนำ 3-2 ทั้งวิลล็อคยังทำสถิติยิงในพรีเมียร์ลีก 5 นัดติด

แต่เจ้าถิ่นดีใจได้แปล๊บเดียว นาที 64 “เรือใบสีฟ้า” มาไล่ตีเสมอ 3-3 ทันควันจากจังหวะที่ กาเบรียล เชซุส ใช้ความเร็วกระชากเข้าไปถึงเส้นหลังแล้วครอสแรงมาหน้ากรอบให้ เฟร์ราน ตอร์เรส เข้าชาร์ทเปลี่ยนทางบอลเข้าไปเป็นประตูที่สองของ ตอร์เรส ในเกมนี้มีลุ้นแฮตทริก

เกมแลกกันสนุกสุดมันส์ อีกสองนาทีถัดมาลูกทีมของ เป๊ป มาแซงขึ้นนำเป็น 4-3 ในนาที 66 จากจังหวะที่ ชูเอา กานเซโล่ ซัดนอกกรอบไปชนเสาแต่บอลยังกระดอนมาเข้าทางปืน เฟร์ราน ตอร์เรส ตามซ้ำเข้าไปไม่เหลือ และเป็นแฮตทริกในเกมนี้ของปีกชาวสเปน

นาที 74 โจ วิลล็อค ที่เล่นได้โดดเด่นได้โอกาสยิงอีกครั้งแต่บอลก็หลุดกรอบเหินออกไปไกล เช่นเดียวกับ อิลคาย กุนโดกัน ในนาที 77 ลากเข้ามาซัดหน้าประตูแต่หลุดกรอบออกไปแบบหมดลุ้น

จบเกม แมนฯซิตี้ บุกปราบ นิวคาสเซิ่ล 4-3 ฉลองแชมป์พรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ หลังมีเพิ่มเป็น 83 คะแนน ส่วน “สาลิกาดง” แม้จะรั้งอันดับ 16 มี 39 คะแนนแต่อยู่รอดปลอดภัยในซีซั่นนี้แล้ว

ฮีโร่ของเกมนี้

เฟร์ราน ตอร์เรส ได้พิสูจน์ให้เห็นในทักษะการทำประตูของเขาแล้ว สามประตูจากดาวเตะชาวสเปนนั้น ดูจะเรียบง่าย และใช้โอกาสไม่เปลือง 

โชว์ของเขาในวันนี้ เป็นสัญญาณว่าเขาต้องมีสิ่งที่พิเศษรอมอบให้กับเราอยู่ในอนาคตแน่นอน

City’s challenge

ในปี 2018/19 การแข่งขันขับเคี่ยวแชมป์ลีก ได้เข้าสู่วันสุดท้ายของฤดูกาล โดยชัยชนะที่ไบรท์ตันขยับซิตี้ขึ้นไปการันตีแชมป์เหนือลิเวอร์พูล

ในปี 2017/18 ซิตี้มีความมุ่งมั่นที่จะเป็นทีมแรกที่ทำได้ถึง 100 คะแนน ดังนั้นการแข่งขันที่เหลือแต่ละนัดจึงมีจุดมุ่งหมายที่แท้จริงที่ต้องชนะ

ในปี 2020/21 นี้ เรายังมีสถิติที่ยังสามารถทำได้ แต่ในนัดชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ลีกที่กำลังจะมาถึง เป๊ป อาจต้องทำการพักขุนพลที่เตรียมไว้เป็นตัวจริงสำหรับเกมดังกล่าว

การผ่านเกมตกค้างที่ยังต้องเล่นอยู่ โดยไม่ได้รับอาการบาดเจ็บถือเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่ง แต่ซิตี้ไม่เพียงแค่เล่นให้ผ่านไปเท่านั้น ความต้องการชนะ มันอยู่ในดีเอ็นเอของเราอยู่แล้ว

ดังนั้นในแมตซ์กับไบรท์ตันและเอฟเวอร์ตัน กำลังจะมาถึง จึงน่าสนใจที่จะดูว่าพรีเมียร์ลีกของเราในปีนี้จะจบลงอย่างไร

หมายความว่าอย่างไร…

ซิตี้ นำห่างที่ตำแหน่งจ่าฝูงที่ 13 คะแนน ซึ่งแม้ว่าเราจะคว้าแชมป์ไปแล้ว แต่ส่วนที่เหลือก็เป็นเสมือนการเพิ่มสถิติขึ้นต่อฤดูกาลเท่านั้น

นอกจากนี้ยังหมายความว่าซิตี้ได้สร้างสถิติใหม่ของฟุตบอลอังกฤษ ด้วยการคว้าชัยชนะในเกมเยือน12 นัดติดต่อกัน

เหลือเชื่อจริง ๆ !

โปรแกรมถัดไป

วันอังคารหน้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะเล่นเกมเยือนเป็นนัดสุดท้ายของฤดูกาล ในการบุกไปเยือนไบรท์ตัน เริ่มเตะเวลา 01.00 น.

หลังเกมจากบอสเป๊ป

“ ผมดีใจที่เฟอร์ราน ตอร์เรส ยิงได้ 3 ประตู แต่เขามีจำนวนประตูที่เหลือเชื่อสำหรับฤดูกาลแรกในอังกฤษ”

“ เขาไม่ได้ลงเล่นในช่วงสองเดือนมากนัก เขามาในฐานะปีกซ้าย แต่เขาสามารถเล่นเป็นกองหน้าได้”

“ ทุกครั้งที่เขาเล่นในตำแหน่งนั้นเขามีความรู้สึกที่แท้จริงในการทำประตู อีกอย่างที่เป็นตัวอย่างที่ยิ่งใหญ่ของเขา สิ่งนั้นสัญชาตญาณที่จะรู้ว่าลูกบอลจะเข้ามาที่ไหน และเขาจะไปอยู่ที่นั่นเพื่อยิงประตู”

“ เขายอดเยี่ยมตลอดทั้งฤดูกาล การเซ็นสัญญาที่น่าทึ่งสำหรับเรา ผู้เล่นอายุน้อยที่สามารถเล่นได้ทั้งสามตำแหน่งสำหรับเราในแดนหน้า”

ไลน์-อัพ

แมนฯ ซิตี้ : สกอตต์ คาร์สัน - ไคล์ วอล์คเกอร์, เอริก การ์เซีย, นาธาน อาเก้, เจา กันเซโล่ (เบนจามิน เมนดี้ น.74) - แบร์นาร์โด้ ซิลวา, โรดริโก้, อิลคาย กุนโดกัน - เฟร์ราน ตอร์เรส, กาเบรียล เฆซุส, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง

สำรอง: สเตฟเฟ่น, ดิอาส, สโตนส์, ลาปอร์กต์, แฟร์นันดินโญ่, มาห์เรซ, โฟเด้น, พาลเมอร์

นิวคาสเซิ่ล : มาร์ติน ดูบราฟก้า - ยาค็อบ เมอร์ฟี่, เอมิล คราฟธ์, เฟเดริกโก้ เฟร์นานเดซ (ดไวท์ เกลย์ น.88), พอล ดัมเมตต์, แมตต์ ริตชี่ (ฌอน ลองสตาฟฟ์ น.84) - โจ วิลล็อค, จอนโจ้ เชลวี่, มิเกล อัลมิร่อน - อัลล็อง แซงต์-มักซิแม็ง, โชลินตอน (จามาล ลูอิส น.84)

สำรอง: คลาร์ก, ลองสตาฟฟ์, คาร์โรล, เฮนดริคก์, มานกีโย่, กิเลสพาย