เฟร์ราน ตอร์เรส ทำประตูอย่างเหนือชั้นเบิกประตูแรกให้กับทัพซิตี้ ก่อนเกมนี้จะจบลงด้วยแฮตทริกของเจ้าตัว

แนวรุกชาวสเปน กระโดดดีดขาหลังส่งบอลเข้าสู่ก้นตาข่าย จากฟรีคิกของกุนโดกันในช่วงก่อนหมดครึ่งแรก เป็นประตูขึ้นนำให้กับทีม 2-1

แม้นิวคาสเซิ่ลจะไม่ยอมแพ้ และมาได้ประตูขึ้นนำจากจุดโทษในอีก 2 ประตูถัดมา แต่สัญชาติญาณของตอร์เรส ก็มาบวกประตูเพิ่มจนพาซิตี้แซงเอาชนะไปได้ในที่สุด

ซึ่งเจ้าตัวก็เผยว่ารู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งที่ความพยายามของเขานั้นสำเร็จเสร็จสมบูรณ์

DOWNLOAD แมนฯ ซิตี้ แอพพลิเคชั่น

“ ในจังหวะเซ็ตพีซ ผมพยายามโฟกัสไปที่เสาแรกเสมอ” ตอร์เรสอธิบายถึงประตูแรกที่ทำได้ในเกม

“ ผมตอกส้นสะบัดใส่บอลและผมคิดว่ามันเป็นประตูที่สวยงามมาก! “

“ มันเป็นสัปดาห์ที่น่าเหลือเชื่อ เราผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ลีก คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกจากนั้น ผมก็ทำแฮตทริกได้ ผมมีความสุขมาก”

ในฤดูกาลเปิดตัวที่น่าประทับใจที่ซิตี้ ตอร์เรสแสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้ใหญ่และความชาญฉลาดอย่างไม่น่าเชื่อ ในการพัฒนาของเขาให้เหมาะสมกับตำแหน่งต่าง ๆ ในแนวรุกของเรา

ตอร์เรสย้ายจากบาเลนเซียในช่วงซัมเมอร์ โดยมีเกมส่วนใหญ่ที่ลงเล่นทางด้านขวา แต่ภายใต้การจับตามองของ เป๊ป กวาดิโอล่า เขายังถูกปรับใช้ในบทบาทสำคัญมากกว่านั้น

การคว้าชัยชนะเหนือนิวคาสเซิล 4-3 เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ดีของนักเตะชาวสเปน ที่เข้ามาเล่นตรงกลางเพื่อช่วยซิตี้ในการคว้าชัยชนะเกมเยือนติดต่อกัน เป็นเกมที่ 12 ติดต่อกัน

และแข้งชาวสเปนก็พูดติดตลกว่า การเล่นเป็นผู้เล่นในตำแหน่งหมายเลข 9 แบบดั้งเดิม อาจเป็นสิ่งที่แท้จริงของเขา

“ ตำแหน่งแรกของผมในขีวิตคือปีกซ้าย แต่ผมได้เรียนรู้ในปีนี้ว่าจะเล่นในตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งในสามตำแหน่งข้างหน้า เพื่อที่ผมจะได้สบายใจในตำแหน่งใดก็ได้” เขากล่าว

“ ผมไม่เคยเล่นเป็นหมายเลข 9 มาก่อน แต่ผมก็รู้สึกโอเคกับตำแหน่งนั้นนะ วันนี้ผมเล่นเป็น false nine และทำแฮตทริกได้แล้ว ทำไมผมจะเล่นตรงนั้นไม่ได้ล่ะ”

อย่างไรก็ตามแข้งวัย 21 ปี ยังคงถ่อมตัวและยืนยันว่า การมีส่วนร่วมกับทีมเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกของเขา

CITY+ | WATCH FULL-MATCH REPLAYS OF EVERY CITY GAME

“ ผมพยายามปรับปรุงตัวเองทุกวัน และเรียนรู้จากเพื่อนร่วมทีมและผู้จัดการทีม” เขากล่าว

“ ผมพยายามใช้ประโยชน์จากโอกาสที่ผู้จัดการทีมมอบให้เสมอ แฮตทริกที่ผมทำได้ มันช่วยซัพพอร์ตทีมให้ชนะ”

“ ผมพยายามทำงานอย่างหนักทุกวันเพื่อให้ได้รับโอกาส ในรอบชิงชนะเลิศ (แชมเปี้ยนส์ลีก)”