The Story of: 6 สังเวียนเดือด ศึกแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้

สัมภาษณ์

แบร์นาร์โด้เผยกุญแจสำคัญสู่ชัยชนะในเกมดาร์บี้แมตช์

สัปดาห์นี้จะเป็นการเจอกันครั้งที่ 186 ระหว่างซิตี้กับยูไนเต็ด ซึ่งในการแข่งขันต่างๆ ทั้งหมด เรายังคงไล่ตามเพื่อนบ้านของเราที่ชัยชนะ 77 ครั้ง เทียบกับชัยชนะ 55 ของซิตี้

ในขณะเดียวกันซิตี้ก็ยังเหนือกว่ายูไนเต็ดด้วยระยะห่าง 3 แต้มในอันดับพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้

การเดินทางและประวัติการต่อสู้อันยาวนานของทั้งสองทีม เป็นเรื่องราวที่น่าสนใจเสมอมา มีเรื่องราวจำกัดที่จะเล่าหรือไม่? แน่นอนว่าไม่ หนึ่งในนั้นคือเรื่องราวเกี่ยวกับ 6 สนาม ที่เคยใช้จัดดาร์บี้อันโด่งดัง ดังกล่าวนี้

ติดตาม MAN CITY พอดแคสต์ ได้ที่นี่! 

ทีมชุดใหญ่

The Story of: กำเนิด อเกวโร่ ดาวยิงสูงสุดของสโมสร

จุดเริ่มต้นของเรื่องราว

ย้อนกลับไปที่จุดเริ่มต้นของการก่อตั้งสโมสรในยุค 1880 แมนฯ ซิตี้ ที่ยังคงใช้ชื่อ เซนต์ มาร์คส์ (เวสต์ กอร์ตัน) ออกมาเยือนสนามที่ นอร์ธ โร้ด ซึ่งเป็นของ นิวตัน ฮีธ ทีมปัจจุบันที่รู้จักกันในชื่อ แมนฯ ยูไนเต็ด

แมตช์วันที่ 12 พฤศจิกายน 1881 ซึ่งชนะนิวตัน ฮีธ 3-0 ถือเป็นจุดเริ่มต้นของดาร์บี้ในตำนานจนถึงปัจจุบัน

นอร์ธ โร้ด ซึ่งมีความจุสูงสุด 15,000 คน ตั้งอยู่ใกล้กับทางรถไฟแมนเชสเตอร์ ซึ่งถือว่าทำกำไรได้มากทีเดียวสำหรับนิวตัน โดยผู้เล่นในขณะนั้นส่วนใหญ่เป็นพนักงานบนรถไฟนั่นเอง

CITY+ | สมัครรับคอนเทนต์สุด Exclusive จากสโมสร

ดาร์บี้เพื่อการกุศล

ก่อนจะได้ชื่อแมนเชสเตอร์ ซิตี้ อันโด่งดังมาจนถึงตอนนี้ เซนต์ มาร์คส์ (เวสต์ กอร์ตัน) ได้เปลี่ยนชื่อเป็น อาร์ดวิค AFC เป็นครั้งแรกในปี 1887 เมื่อสโมสรตัดสินใจที่จะเป็นทีมอาชีพและสนามของเรา ก็ทำการย้ายไปที่ไฮด์ โร้ด

ที่ไฮด์โร้ด มีการจัดดาร์บี้การกุศลซึ่งได้รับความสนใจจากหลาย ๆ คนเมื่อ อาร์ดวิค และ นิวตัน ฮีธ เผชิญหน้ากันอย่างเป็นมิตรเพื่อการระดมทุน

การดำเนินการนี้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์การระเบิดของเหมืองถ่านหินแห่งใหม่ ใกล้กับไฮด์โร้ด ซึ่งทำให้คนงานเหมืองเสียชีวิตมากกว่า 20 คนในขณะนั้น

ที่ไฮด์โร้ด ยังมีการพบกันครั้งแรกระหว่างทั้งสองทีม เมื่อครั้งทั้งคู่เข้าร่วมฟุตบอลลีก (การแข่งขันลีกสูงสุด) โดยนิวตัน ฮีธ ในเวลานั้นเอาชนะแมนเชสเตอร์ซิตี้ 5-2 ในฤดูกาล 1894-95

จากแบงค์ สตรีท สู่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด

เมื่อเปลี่ยนจากนอร์ธ โร้ด ยูไนเต็ด หรือที่รู้จักในชื่อนิวตัน ฮีธ ก็ได้ย้ายไปที่แบงค์ สตรีท ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นสนามของพวกเขาในปี 1983

ที่ตั้งของถนน แบงค์ สตรีท นั้นอยู่ห่างจากสนามกีฬาเอทิฮัด ปัจจุบันของซิตี้เพียง 1.5 กิโลเมตร

นิวตัน ฮีธ ร่วมมือกับ แบงค์ สตรีท จนถึงปี 1910 เมื่อพวกเขาตัดสินใจซื้อสนามนอกเมืองแมนเชสเตอร์ ที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ทางตะวันตกเฉียงใต้ของแมนเชสเตอร์

โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เป็นสนามกีฬาของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาจนถึงทุกวันนี้ สิ่งที่น่าสนใจคือหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ได้รับการปรับปรุงใหม่ หลังจากตกเป็นเป้าหมายของระเบิดในเวลานั้น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ เมนโร้ด ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นสนามกีฬาที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และความภาคภูมิใจสำหรับแฟน ๆ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 

เวมบลีย์แห่งภาคเหนือ

เมื่อพูดถึงซิตี้ เราไม่เคยลืม เมนโร้ด ซึ่งเป็นสนามกีฬาเก่าแก่ที่สโมสรใช้แข่งอยู่ระหว่างปี 1923 ถึง 2003

ด้วยความจุผู้ชมมากถึง 84,000 คน เมนโร้ด จึงมีชื่อเล่นว่า เวมบลีย์แห่งภาคเหนือ เนื่องจากเป็นสนามกีฬาที่ใหญ่เป็นอันดับสองในอังกฤษในขณะนั้นรองจาก สนามเวมบลีย์

เรื่องราวทั้งสุข เศร้า และมืดมนเกิดขึ้นที่นั่น แต่ขอพูดถึงดาร์บี้ครั้งสุดท้ายสักกหน่อย ก่อนที่หลังจากนั้นซิตี้จะทำการย้ายสนาม

“มันเป็นดาร์บี้สุดท้ายที่เมน โร้ด ดังนั้นเราจึงรู้ว่าเราต้องเอาชนะยูไนเต็ดให้ได้เพื่อแฟนบอล” เรื่องราวของ ฌอน โกเตอร์ ที่เปล่งประกายในการแข่งขันครั้งนั้น

ใช่แล้ว เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2002 เป็นแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ ครั้งที่ 127 เกมดังกล่าวจบลงอย่างแฮปปี้สำหรับแฟน ๆ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดยเราชนะมาเพียง 2 นัดจาก 10 นัดก่อนหน้านั้น ทำให้เกมนี้ดูยากเย็นไปตั้งแต่เริ่มต้น

แต่ประตูอย่างรวดเร็วของ นิโกล่าส์ อเนลก้า ในนาทีที่ 5 ทำให้เรามีความหวัง แม้จะโดนตีเสมอใน 3 นาทีต่อมาจาก โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้จัดการทีมของ ยูไนเต็ด การโชว์ฟอร์มของ ‘The Goat’ มาบังเกิดขึ้นในนาทีที่ 26 และ 50 ทำให้แฟน ๆ บันทึกความทรงจำที่แสนหวาน กับดาร์บี้สุดท้ายที่ เมนโร้ด อย่างมีความสุข

รั้งเหย้าปัจจุบันของเรา เอติฮัด สเตเดียม

บ้านของเราในวันนี้และบ้านของเราในอนาคต สนามกีฬาซึ่งเดิมเรียกว่า ซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์ เป็นรังเหย้าของเราตั้งแต่ปี 2003 มีการปรับปรุงและพัฒนาต่อเติมหลายครั้ง และปัจจุบันเป็นสนามกีฬาที่ใหญ่เป็นอันดับ 5 ในอังกฤษ

ชัยชนะครั้งใหญ่ที่สุดของแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ที่เอติฮัด เกิดขึ้นในปี 2004 เมื่อเราชนะ 4-1 จากนั้นเราทำซ้ำอีกครั้งในปี 2013 ด้วย 2 ประตูที่สวยงามจากเซร์คิโอ อเกวโร่

ด้วยยุคสมัยของซิตี้ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา การเผชิญหน้ากับยูไนเต็ดจะพิสูจน์ได้ว่าเป็นความท้าทายของตัวเอง แต่ถึงอย่างไรสนามเอติฮัดแห่งนี้ และเหล่าขุนพลสีฟ้าของเรา จะไม่มีวันเบื่อที่จะสร้างความทรงจำให้กับแมนเชสเตอร์ดาร์บี้ เพิ่มอีกต่อไปแน่นอน!