"ไก่เดือยทอง" ยังเดินหน้าคว้าชัย 4 เกมติดแถมทำสถิติไร้พ่ายในลีกเป็นเกมที่ 8 ติดต่อกันหลังเกมนี้เล่นได้ยอดเยี่ยมเปิดบ้านเอาชนะ แมนฯซิตี้ แบบสนุก 2-0 ซอน ฮึง-มิน ซัดเม็ดแรงขึ้นนำดาวซัลโวลีกที่ 9 ประตู ก่อนที่ โจวานนี่ โล เซลโซ่ ที่ซัดปิดท้ายให้ทีมคว้าสามแต้ม แซงขึ้นไปรั้งจ่าฝูงของตารางชั่วคราว ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา
เกมบิ๊กแมตช์ พรีเมียร์ลีก เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 21 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา สเปอร์ส ทีมอันดับ 3 เปิดบ้านรับมือ แมนฯซิตี้ ทีมอันดับ 10 โดยฟอร์มล่าสุดนั้น "ไก่เดือยทอง" ฟอร์มยอดเยี่ยมไม่แพ้ในลีกมา 7 เกมติด นัดล่าสุดบุกไปเชือด เวสต์บรอมวิช 1-0 ขณะที่ "เรือใบสีฟ้า" ฟอร์มล่าสุดเปิดรังเจ๊ากับแชมป์เก่า ลิเวอร์พูล 1-1
เกิดอะไรขึ้นบ้าง?
โชเซ่ มูรินโญ่ เกมนี้ใช้ แฮร์รี่ เคน เป็นหน้าเป้า โดยมีสามประสานอย่าง ซอน ฮึง-มิน, ต็องกี เอ็นดอมเบเล่ และ สตีเฟ่น เบิร์กไวน์ สนับสนุน ขณะที่ฝั่ง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จัดสามประสานเป็น ริยาด์ มาห์เรซ, กาเบรียล เชซุส และเฟร์ราน ตอร์เรส โดยมีเควิน เดอ บรอยน์ ปั้นเกม
ครึ่งแรกเปิดฉากมาได้ไม่ถึง 2 นาที "เรือใบสีฟ้า" ได้ทักทายก่อนเลยหลัง เฟร์ราน ตอร์เรส ที่ฟอร์มกำลังคึกลากบอลตัดเข้าหน้ากรอบก่อนจะซัดด้วยซ้าย แต่บอลพุ่งไปเข้ามือ อูโก้ โยริส
กระนั้น โอกาสยิงหนแรกของ สเปอร์ส กลายเป็นชิงขึ้นนำทัพเรือใบ 1-0 ทันที จากจังหวะเล่นฟรีคิกเร็วกลางสนาม ต็องกี เอ็นดอมเบเล่ ตักบอลข้ามแนวรับให้ ซอน ฮึง-มิน หลุดเข้าไปก่อนจับบอลยิงเลียดลอดขา เอแดร์ซอน โมราเอส เข้าไป เป็นประตูที่ 9 ของหัวหอกทีมชาติเกาหลีใต้ ขึ้นนำดาวซัลโวเดี่ยว ๆ
ถัดมานาที 27 อายเมอริก ลาปอร์กต์ รับบอลจาก กาเบรียล เชซุส ก่อนซัดเสียบมุมเข้าประตูไปแล้ว ทว่าแข้งเจ้าถิ่นพยายามฟ้องว่าเป็นจังหวะแฮนด์บอลของ กาเบรียล เชซุส ก่อนที่ ไมค์ ดีน จะวิ่งไปดูภาพจากจอ VAR ข้างสนามก่อนจะเป่าไม่ให้ประตูแก่ทีมเยือน เนื่องจากบอลไปโดนแขนของ กาเบรียล เชซุส ก่อนทำให้สกอร์ยังเป็น สเปอร์ส นำอยู่ 1-0 เหมือนเดิม จบครึ่งแรก สเปอร์ส ขึ้นนำ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-0
ครึ่งหลังนาที 65 มูรินโญ่ เปลี่ยนตัวคนแรกส่ง โจวานนี่ โล เซลโซ่ ลงมาเล่นแทน ตองกี เอ็นดอมเบเล่
และไม่ถึงนาทีถัดมา สเปอร์ส สวนกลับมาแล้วเป็นประตูนำห่างเรือใบสีฟ้า 2-0 ทันที บอลโต้กลับจาก โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์ ฝากบอลเข้ากลางให้ แฮร์รี่ เคน กระชากขึ้นมาก่อนไหลออกซ้ายให้ โจวานนี่ โล เซลโซ่ ที่เพิ่งลงมาไม่กี่วินาทีสัมพัสบอลแรกหลุดเข้าไปซัดลอดขา เอแดร์ซอน ส่งบอลตุงตาข่าย
ช่วงทดเจ็บ นาที 90+1 เควิน เดอ บรอยน์ เปิดฟรีคิกเข้ามาให้ รูเบน ดิอาส โขกเน้นๆ แต่บอลยังโดน อูโก้ โยริส เซฟออกไปอย่างน่าเหลือเชื่อ
จบเกม สเปอร์ส เอาชนะ แมนฯซิตี้ 2-0 คว้าสามแต้มแซงขึ้นไปรั้งจ่าฝูงก่อน
กวาดิโอล่า: เกมรับที่หลวม นำมาซึ่งการเสียประตู
"มันอาจจะดีกว่านี้เราเล่นคล้าย ๆ กับทุกฤดูกาล เราป้องกันประตูแรกได้ไม่ดีนัก จากนั้นพวกเขาก็ลงไปรับลึก พวกเขาลงไปรับกันถึง 6 คน และมันไม่ใช่เรื่องง่าย"
"เรามีโอกาส แต่เราไม่สามารถทำประตูได้และพวกเขาใช้โอกาสสองหรือสามครั้งในการโต้กลับใส่เรา นำมาซึ่งมาพ่ายแพ้ในเกมนี้"
หมายความว่าอย่างไร
เราอยู่ในอันดับที่ 10 ของตารางพรีเมียร์ลีก กับ 12 คะแนน จาก 8 เกม
โปรแกรมถัดไป
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะต้องไปลุยศึกยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกต่อ ในคืนวันอังคารนี้ 00.55 น. ตามเวลาประเทศไทย ในการบุกไปเยือนโอลิมเปียกอส ณ ประเทศกรีซ
จากนั้นเราจะกลับมาเตะเกมลีกอีกครั้งในเกมเจอกับเบิร์นลีย์ วันเสาร์หน้า ณ เอติฮัด สเตเดี้ยม 22.00 น.
ไลน์-อัพ
แมนฯซิตี้ : เอแดร์ซอน โมราเอส - ไคล์ วอล์คเกอร์, รูเบน ดิอาส, อายเมอริก ลาป๊อร์ก, ชูเอา กันเซโล่ - แบร์นาร์โด้ ซิลวา (ฟิล โฟเด้น น.72), โรดรี้, เควิน เดอ บรอยน์- เฟร์ราน ตอร์เรส, กาเบรียล เชซุส, ริยาด มาห์เรซ (ราฮีม สเตอร์ลิง น.72)
SUBS: สเตฟเฟ่น, สโตนส์, กุนโดกัน, อเกวโร่, การ์เซีย
สเปอร์ส : อูโก้ โยริส - แซร์ช โอริเย่ร์, โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์ (โจ โรดอน น.81), เอริก ดายเออร์, เซร์คิโอ เรกีล่อน - ปิแอร์ เอมิล ฮอยจ์เบิร์ก, มุสซ่า ซิสโซโก้ - ซอน ฮึง-มิน, ต็องกี เอ็นดอมเบเล่ (โจวานนี่ โล เซลโซ่ น.65), สตีเฟ่น เบิร์กไวน์ (ลูคัส มูร่า น.73) - แฮร์รี่ เคน
SUBS: ฮาร์ท, เดวี่ส์, โดรดอน, เบล, วินิซิอุส