ย้อนชมขุมกำลังทัพซิตี้ชุดถล่มแอสตัน วิลล่า 5-0 มีใครกันบ้าง แล้วตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ไหน ?

ย้อนกลับไปวันที่ 17 พฤศจิกายน 2012 เป็นการแข่งขันพรีเมียร์ลีกช่วงต้นฤดูกาล 2012/13  เกมที่เราถล่มแอสตัน วิลล่า 5-0 ที่เอติฮัด สตเดี้ยม

ขุนพลของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ในวันนั้นส่วนใหญ่มาจากฤดูกาลก่อนหน้า ฤดูกาลที่เราสามารถคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกครั้งประวัติศาสตร์ในรอบ 44 ปี

ในเกมนี้ เราได้ประตูจากดาบิด ซิลบา 1 ประตู , กุน อเกวโร่ และ คาร์ลอซ เตเบซ เหมาคนละ 2 ประตู 

ผลการแข่งขันส่งผลให้ลูกทีมของโรแบร์โต้ มันชินี่ ทำสถิติไม่แพ้ใครในเกมลีก ที่เอติฮัดสเตเดี้ยมติดต่อกัน 36 นัด และยิงประตูเกมลีกในบ้านติดต่อกันเป็นนัดที่ 38 

วันนี้เราจะพาคุณย้อนกลับไปดูกันว่า มีนักเตะคนใดบ้าง ที่ลงเป็นตัวจริงในเกมวันนั้น พวกเขามีผลงานเป็นอย่างไร ? และในปัจจุบัน พวกเขาอยู่ที่ไหนกัน ? 

 

ช้อปเลย | ชุดแข่งประจำฤดูกาล 2020/21 ของแมนเชสเตอร์ ซิตี้

GK : โจ ฮาร์ท

ตำนานผู้รักษาประตูของซิตี้ ลงเล่นเป็นตัวจริงในเกมนั้น เขาพบกับงานหนักในช่วงเริ่มเกม และช่วยให้เราไม่เสียประตูให้กับคู่แข่งไปก่อน เขาเซฟทั้งหมด 2 ครั้ง เก็บคลีนชีสต์ และนำมาซึ่งชัยชนะ 5 ประตูต่อ 0 

โจ ฮาร์ท คือหนึ่งในตำนานของสโมสรอย่างแท้จริง เขาลงเล่นไปทั้งหมด 348 นัด เสีย 347 ประตู และเก็บได้ 137 คลีนชีสต์

เขาย้ายออกจากซิตี่ไปร่วมทีมเบิร์นลีย์อย่างถาวรเมื่อปี 2018 โดยก่อนหน้านั้น ถูกปล่อยยืมตัวไปอยู่กับโตริโน่ และเวสต์แฮม ยูไนเต็ดตามลำดับ

ปัจจุบัน โจ ฮาร์ท ในวัย 33 ปี กำลังค้าแข้งอยู่กับทีมยักษ์ใหญ่ในพรีเมียร์ลีกอย่างท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ส

RB : ไมค่อน

แบ็คขวาบราซิลเลี่ยน ลงเล่นให้กับซิตี้ช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ในปี 2012/2013 และลงเล่นในเสื้อสีฟ้าไปเพียง 13 นัดเท่านั้น 

1 ใน 9 นัด คือการลงเล่นเป็นตัวจริงในเกมนี้  เขาลงเล่นเป็นแบ็คขวา และเป็นนักเตะที่เลี้ยงผ่านคู่ต่อสู้มากที่สุดในสนาม (3 ครั้ง)

หลังจากจบฤดูกาล 2012/13 เขาได้ย้ายไปร่วมทีมยักษ์ใหญ่ลีกอิตาลี อย่างโรม่า

ปัจจุบันในวัย 39 ปี เขายังไม่แขวนสตั๊ด โดยเล่นอยู่กับสโมสร Villa Nova Atlético Clube ในดิวิชั่น 4 ของบราซิล

 

CB : เวนซ็องต์ กอมปานี

ตำนานของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เราคงไม่ต้องอธิบายถึงความสำคัญที่เขามีต่อทีม

กอมปานี ย้ายจากฮัมบูร์กมาร่วมทีมซิตี้เมื่อปี 2008 ซึ่งในช่วงแรกนั้น เขาลงเล่นในตำแหน่งกองกลางตัวรับสลับกันเซ็นเตอร์แบ็ค ต่อมาในฤดูกาล 2010/11 เขาย้ายมาสวมเสื้อเบอร์ 4 แทนที่ของเนดุม โอนูโอฮา 

กอมปานี ก้าวขึ้นมาเป็นกัปตันทีมของทัพเรือใบสีฟ้าในฤดูกาล 2011/12 เขาค้าแข้งอยู่กับทีมยาวนานกว่า 11 ปี ลงเล่นไปทั้งหมด 360 นัด ตลอด 11 ปีกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 4 สมัย แชมป์เอฟเอคัพ 2 สมัย และแชมป์ลีกคัพอีก 4 สมัย และพาทีมผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกเมื่อปี 2016

เขาย้ายออกจากซิตี้เมื่อ 2019 โดยย้ายกลับไปอยู่กับทีมในวัยเด็กของเขาอย่างอันเดอร์เลทช์  โดยการกลับไปในครั้งนี้ เขามีสองบทบาท นั่นคือผู้เล่น-และผู้จัดการทีม

ในปี 2020 กอมปานีตัดสินใจแขวนสตั๊ดอย่างเป็นทางการ ด้วยวัย 34 ปี และรับบทบาทผู้จัดการทีมอันเดอร์เลทช์แบบเต็มตัว จนถึงปัจจุบัน

CB : มาติย่า นาสตาซิซ

มาติย่า นาสตาซิซ เซ็นเตอร์แบ็คชาวเซอร์เบีย ย้ายจากฟิออเรนติน่ามาร่วมทัพซิตี้เมื่อปี 2012 ซึ่งขณะนั้นเขามีอายุเพียงแค่ 19 ปี

เขาสามารถยึดตำแหน่งตัวจริงได้อย่างรวดเร็ว และได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในเกมนี้ ที่เราเปิดบ้านถล่มวิลล่า 5-0  เขาก้าวเข้ามาอยู่ในหัวใจแฟน ๆ ซิตี้ และได้รับการโหวตให้คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนพฤศจิกายนของสโมสรอีกด้วย

 

ปัจจุบัน นาสตาซิซมีอายุ 27 ปี ค้าแข้งอยู่ในบุนเดสลีก้ากับชาลเก้ 04 และลงเล่นให้กับต้นสังกัดทะลุ 100 นัดเป็นที่เรียบร้อย

LB : กาเอล คลิชี่

กาเอล คลิชี่ แบ็คซ้ายทีมชาติฝรั่งเศส เป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญของเราในตอนนั้น 

เขาย้ายมาจากอาร์เซน่อลในปี 2011 โดยในเกมนี้ เขาลงเล่นเป็นตัวจริงในตำแหน่งแบ็คซ้าย และเป็นหนึ่งในนักเตะที่ทำผลงานได้ดีที่สุดในสนาม ทำสถิติเข้าสกัดสำเร็จ 3 ครั้ง มีความแม่นยำในการผ่านบอลสูงถึง 95%

เขาถูกเปลี่ยนตัวออกในนาทีที่ 73 โดยการแทนที่ของโคลารอฟ

กาเอล คลิชี่อยู่กับสโมสร 6 ปี ลงเล่นไปทั้งหมด 203 นัด ก่อนจะย้ายไปร่วมทีมบาซัคเคเฮียร์ ในลีกตุรกีเมื่อปี 2017 ปัจจุบันในวัย 35 ปี คลิชี่ ยังคงไม่แขวนสตั๊ด เป็นนักเตะไร้สังกัดอยู่ในขณะนี้ 

เขายังคงคิดถึงช่วงเวลาที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อยู่เสมอ สังเกตุได้จากอินสตาแกรมส่วนตัว เขามักจะอัพเดตรูป และคลิปวีดีโอของช่วงเวลาในสีเสื้อแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถ้าหากซิตี้เซ่นส์คิดถึงเขา สามารถเข้าไปติดตามได้ที่อินสตาแกรม gael.clichy

cm : ยาย่า ตูเร่

มิดฟิลด์ชาวไอวอรี่ โค้ด หนึ่งในตำนานที่ดีที่สุดของสโมสร เขาลงเล่นบัญชาเกมในแดนกลางในวันนั้น มีส่วนอย่างมากทั้งเกมรุกและเกมรับ เป็นที่มาของชัยชนะ 5 ประตูต่อ 0 

เขามีสถิติผ่านบอลสำเร็จ 93% ในเกมนั้น เข้าสกัดชนะ 100% และมีโอกาสสอดขึ้นไปยิงถึง 4 ครั้ง 

ยาย่าย้ายมาจากบาร์เซโลน่าเมื่อปี 2010 เขาลงเล่นในสีเสื้อเรือใบสีฟ้าทั้งหมด 316 นัด ช่วยให้ทีมคว้า 7 แชมป์ 

เขาย้ายออกจากซิตี้ไปร่วมทีมโอลิมเปียกอสในปี 2018 ที่จะย้ายไปค้าแข่งกับสโมสรชิงเต่า ในลีกจีนเมื่อปี 2019 

ช่วงฤดูกาลที่แล้ว เราจะสามารถเห็นเขาได้บ่อยครั้งทางทีวี โดยเขาถูกมักจะถูกเชิญไปร่วมรายการวิเคราะห์ฟุตบอลของ Sky Sports

ปัจจุบันในวัย 38 ปี ยาย่ายังไม่ตัดสินใจแขวนสตั๊ด และเป็นนักเตะไร้สังกัดอยู่ ณ ขณะนี้ เช่นเดียวกับกาเอล คลิชี่ ถ้าคุณอยากรู้ว่าเขารักซิตี้มากแค่ไหน ลองเข้าไปติดตามอินสตาแกรมส่วนตัวของเขา realtoureyaya คุณจะสามารถเห็นเขาโพสต์รูปในสีเสื้อเรือใบสีฟ้าตลอดเวลา!

cm : กาเร็ธ แบร์รี่

กาเร็ธ แบร์รี่ มิดฟิลด์มากประสบการณ์ของเรา เขาลงเล่นเป็นตัวจริงคู่กับยาย่า ตูเร่ในแดนกลาง 

และในเกมวันนั้น เขาต้องลงเล่นพบกับต้นสังกัดเก่า แอสตัน วิลล่า 

แบร์รี่ย้ายจากวิลล่ามาร่วมทีมแมนฯซิตี้เมื่อปี 2009 เขาอยู่กับเราจนถึงปี 2014 ลงเล่นให้กับซิตี้ไปทั้งหมด 175 นัด คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก และเอฟเอคัพ อย่างละ 1 สมัย

นอกจากนี้ เขายังถือครองสถิติเป็นนักเตะที่ลงเล่นในพรีเมียร์ลีกมากที่สุดตลอดกาล โดยลงเล่นไป 653 แมตช์ กับ 4 สโมสร ได้แก่ แอสตัน วิลล่า, แมนเชสเตอร์ ซิตี้, เอฟเวอร์ตัน และเวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน

แบร์รี่ ประกาศแขวนสตั๊ดเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม ปี 2020 ด้วยวัย 39 ปี และเวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน คือสโมสรสุดท้ายในอาชีพนักฟุตบอลของเขา 

amr : ดาบิด ซิลบา

ดาบิด ซิลบา อีกหนึ่งตำนานของซิตี้ เขาลงเล่นเป็นตัวจริง และเป็นคนยิงประตูแรกของเกมนี้ในนาทีที่ 43 และนอกจากนี้เขายังมีหน้าที่รับผิดชอบลูกตั้งเตะทั้งหมดของซิตี้ นำมาซึ่ง 2 จุดโทษที่เราได้ในเกมนี้

เขาคือ 1 คนที่เด่นที่สุดในสนาม คีย์พาส 2 ครั้ง , เตะมุม 3 ครั้ง , ยิงตรงกรอบ 2 ครั้ง และเป็น 1 ประตู

“พ่อมดน้อย” ย้ายจากบาเลนเซียมาร่วมทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้เมื่อปี 2010 อยู่กับซิตี้ 10 ปีเต็ม ลงเล่นไป 436 นัด พาทีมคว้าแชมป์มากมาย ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาคือหนึ่งในนักเตะที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสรของเรา และเรียกได้ว่าเป็นนักเตะที่เหล่าซิตี้เซ่นส์รักมากที่สุด

ปี 2020 ดาบิด ซิลบา ย้ายออกจากซิตี้ กลับไปค้าแข้งในลีกสเปนอีกครั้งกับเรอัล โซเซียดาด ด้วยเหตุผลที่พวกเราไม่สามารถรั้งเขาไว้ได้ นั่นคือการอยากกลับไปใช้ชีวิตกับครอบครัว 

ปัจจุบันในวัย 34 ปี เขาเป็นตัวหลักให้กับเรอัล โซเซียดาด ลงเล่นไปแล้ว 11 นัด ยิง 1 ประตู และทำไป 2 แอสซิสต์

aml : ซาเมียร์ นาสรี่

นาสรี่ เปลี่ยนจากหมายเลข 19 มาสวมเสื้อหมายเลข 8 ในช่วงต้นฤดูกาล 2012/13 

เขาคือแนวรุก 1 ใน 4 คนของซิตี้ในเกมนี้ และเป็นคนจ่ายบอลถวายพานให้เตเบซยิงปิดกล่องให้กับเรา นาสรี่มีส่วนอย่างมากในเกมรุก จ่ายคีย์พาสไปทั้งหมด 8 ครั้ง มากที่สุดในเกม และมีเปอร์เซ็นต์การจ่ายบอลสำเร็จสูงถึง 90%

เขาย้ายออกจากซิตี้ไปร่วมทีมเซบีย่าแบบยืมตัว เมื่อปี 2016 และหลังจากนั้นย้ายไปร่วมทีม Antalyaspor ในลีกตุรกี และกลับมาค้าแข้งในอังกฤษอีกครั้งกับเวสต์แฮม 

ปี 2019 นาสรี่ เซ็นสัญญาร่วมทีมอันเดอร์เลทช์ และที่นี่เองเขาได้มีโอกาสร่วมงานกับเพื่อนเก่าอย่าง เวนซองต์ กอมปานี

ปัจจุบัน ในวัย 33 ปี นาสรี่เป็นนักเตะไร้สังกัด แฟน ๆ สามารถติดตามเขาได้ที่อินสตาแกรมส่วนตัว samnasri8

amc : เซอร์กิโอ้ อเกวโร่

อเกวโร่ ซึ่งในเวลานั้นยังคงสวมเสื้อหมายเลข 16 เป็นผู้ทำ 2 ประตูในเกมนี้ให้กับซิตี้  มาจาก 1 จุดโทษ และอีกหนึ่งประตูสุดสวยจากการยิงมุมแคบผ่านมือแบรด กูซานเข้าไป

และนี่เป็น 2 จาก 17 ประตูที่เขาทำได้ในฤดูกาลนั้น ก่อนจะครองตำแหน่งดาวซัลโวของสโมสรประจำฤดูกาลร่วมกับคาร์ลอซ เตเบซ

คงไม่ต้องกล่าวสรรพคุณกันมากมายสำหรับนักเตะรายนี้ ผู้ซึ่งครองตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาล และเปรียบดั่งไอค่อนของสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้

จากวันนั้นถึงวันนี้ ผ่านมาแล้ว 8 ปี อเกวโร่ในวัย 32 ปียังคงเป็นกำลังหลักของเรา เดินหน้ายิงประตูพาสโมสรไล่ล่าความสำเร็จ

แม้ว่าตอนนี้เขาจะได้รับอาการบาดเจ็บ และกำลังพักรักษาตัว แต่เชื่อว่าอีกไม่นานเกินรอ เขาจะกลับมาเป็นกำลังสำคัญของทีมอีกครั้ง

cf : คาร์ลอซ เตเบซ

คาร์ลอซ เตเบซ นักเตะที่โดดเด่นที่สุดของเราในวันนี้

2 ประตู กับอีก 1 แอสซิสต์ ส่งผลให้เขาคว้ารางวัลแมนออฟเดอะแมตช์ไปแบบไม่มีข้อกังขา

ไม่เพียงแค่มีส่วนร่วมกับประตูเท่านั้น เขายังสร้างสรรค์โอกาสการทำประตู โดยการจ่ายคีย์พาสไปทั้งหมด 5 ครั้ง เป็นรองแค่นาสรี่เพียงคนเดียวเท่านั้น

เขาจบฤดูกาลนี้ด้วยการยิงประตูเยอะที่สุดของสโมสรรวมทุกรายการ ที่ 17 ประตู เทียบเท่ากับกุนอเกวโร่

เตเบซ ย้ายจากเวสต์แฮม ยูไนเต็ดมาร่วมทัพซิตี้เมื่อฤดูกาล 2009 หลังจากที่ก่อนหน้านั้นเขาถูกยืมตัวไปอยู่กับทีมร่วมเมืองของเราอย่างแมนฯยูไนเต็ด เขาค้าแข้งอยู่กับเรา 4 ปี พาทีมคว้า 3 ถ้วยแชมป์ ก่อนที่จะย้ายไปร่วมทีมยูเวนตุสในปี 2013 

ปัจจุบันในวัย 36 ปี เขายังคงโลดแล่นอยู่บนเส้นทางการค้าแข้ง โดยลงเล่น และรับบทบาทกัปตันทีมกับทีมในวัยเด็กอย่างโบค่า จูเนียร์ในลีกอาร์เจนติน่า

 

ติดตามพอดแคสต์อย่างเป็นทางการของแมนฯซิตี้ได้ที่นี่