แข้งจอมทุ่มเทของซิตี้ โชว์ฟอร์มเก่งจนช่วยให้ประเทศบ้านเกิดของเขาเอง สามารถผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีม เป็นครั้งแรกในการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์ยุโรป โดยทำประตูเบิกร่อง พร้อมแอสซิสต์ในนาทีที่ 121 ในการเอาชนะสวีเดนช่วงต่อเวลาพิเศษ 2-1
รางวัลของพวกเขาคือการผ่านเข้ารอบไปดวงกับทัพ ทรีไลออนส์ ของแกเร็ธ เซาต์เก็ต ซึ่งผ่านเข้ามาด้วยชัยชนะเหนือเยอรมนี 2-0
CITY+ | SUBSCRIBE TO ACCESS EXCLUSiVE CONTENT
จนถึงตอนนี้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง โชว์ฟอร์มซัดไป 3 ประตูในยูโร 2020 และนำทัพสตาร์ดังซิตี้ได้ไปต่อ อย่างจอห์น สโตนส์, ไคล์ วอล์คเกอร์ และฟิล โฟเดน กับทีมชาติอังกฤษ ซึ่งเต็มไปด้วยใบหน้าที่คุ้นเคยสำหรับซินเชนโก้
แต่นักเตะวัย 24 ปี ยอมรับว่าเขาตั้งตารอที่จะได้พูดคุยกับเพื่อนร่วมทีมก่อนเริ่มการแข่งขัน แต่เน้นย้ำว่ามิตรภาพจะหายในสนาม เมื่อเกมเริ่มต้นขึ้น
“ผมจะมีความสุขมากที่ได้พบเพื่อนร่วมทีม แต่ทันทีที่เราลงสนาม เราจะไม่มีคำว่าเพื่อนกัน” เขายอมรับ
“ผมรอเกมนี้ไม่ไหวแล้ว วันนี้ผมอยากฉลองความสำเร็จตรงนี้ก่อน (เข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศของยูโร 2020) แต่จากพรุ่งนี้ เราจะเริ่มคิดถึงเกมข้างหน้า”
ชัยชนะแบบหืดจับในนาทีสุดท้ายของยูเครนที่แฮมป์เดนพาร์ค ในรอบ 16 ทีมที่ผ่านมากับสวีเดน ช่างน่าทึ่งพอ ๆ กับที่เคยเป็นประวัติศาสตร์สำหรับประเทศในยุโรปตะวันออก
มันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในทีมของ อังเดร เชฟเชนโก้ ที่ผ่านเข้าไปสู่รอบดังกล่าว เพราะเคยมาไกลสุดในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปแค่รอบแบ่งกลุ่ม
อย่างไรก็ตาม ชัยชนะในกลาสโกว์ทำให้เห็นว่าพวกเขาจะกระตือรือร้นที่อยากจะเข้ารอบต่อไปในยูโร 2020 และตั้งแต่ตารอเจอกับทีมของ แกเร็ธ เซาต์เก็ต ในวันเสาร์ที่ 3 กรกฎาคม
ซินเชนโก้บอกว่า: “มันเป็นอารมณ์ที่ไม่น่าเชื่อและวันนี้ผมสะใจมากที่ได้ฉลอง แต่จากวันพรุ่งนี้เราต้องคิดถึงเกมอื่น เพราะเราสามารถทำอะไรได้มากกว่านั้น”
“เรากำลังเขียนประวัติศาสตร์ให้กับคนทั้งประเทศ ขอขอบคุณ (แฟนๆ) สำหรับการสนับสนุน ทุกคนสมควรได้รับมัน”
“มันเป็นเกมที่ยาก เรารู้ว่าสวีเดนเป็นทีมที่ยอดเยี่ยม พวกเขาจัดระเบียบเกมรับได้ดีและมีผู้เล่นที่มีคุณภาพมากมาย”
“สถิติมันบอกออกมาได้ด้วยตัวของมันเอง พวกเขาจบด้วยตำแหน่งจ่าฝูงในกลุ่มที่แข็งแกร่ง (กลุ่ม E) นำหน้าสเปน”
“ผมภูมิใจมากที่ได้สวมเสื้อตัวนี้ ตั้งแต่ผมเริ่มเล่นให้กับทีมชาติ ทุกเกมเป็นสิ่งที่พิเศษ มันเป็นความรู้สึกที่ไม่มีอะไรมาแทนได้”