รายงานการแข่งขัน | Season 2016/17

ซิตี้ 2

เลสเตอร์ 1

พรีเมียร์ ลีก
เอทิฮัด สเตเดี้ยม Att:54407
13 พฤษภาคม 2560 14:00:00
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
2Silva 29'
de Jesus 36' (pen)
เลสเตอร์ ซิตี้
1Okazaki 42'
- กรรมการ
- Robert Madley
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ :
- Caballero
- Clichy
- Kompany
- Luiz Rosa
- Otamendi
- Sané
- Touré
- Silva
- De Bruyne Zabaleta 82’
- Sterling Agüero 78’
- de Jesus Navas 94’
- ตัวสำรองที่ไม่ได้ลงเล่น
- Kolarov, Reges, Agudo Durán, Gunn
เลสเตอร์ ซิตี้:
- Schmeichel
- Benalouane
- Simpson
- Chilwell
- Fuchs
- Albrighton Gray 80’
- Mahrez
- Ndidi
- King Amartey 68’
- Vardy
- Okazaki Slimani 73’
- ตัวสำรองที่ไม่ได้ลงเล่น
- Wasilewski, Zieler, Kapustka, Musa
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ไม่ยอมอยู่กับที่ในอันดับสี่ด้วยการเก็บสามแต้มในบ้านทะยานขึ้นที่สาม หลังเฉือนเลสเตอร์ ซิตี้ จากประตูของดาบิด ซิลบา และกาเบรียล เฆซุส
เกมนี้เรือใบสีฟ้าต้องการสามแต้มแห่งชัยชนะเป็นที่สุด เพื่อหวังแซงหน้าลิเวอร์พูล และรักษาที่ยืนในยูฟ่า แชมป์เปี้ยน ลีก โดยมีอาร์เซน่อลไล่จี้หลังมาติดๆ
ซิตี้เพิ่งกลับมารับฉายานรกของทีมเยือนด้วยการเปิดรังถล่มคริสตัล พาเลซ 5-0 ในนัดก่อนหน้านี้
ผังนักเตะของกุนซือเป๊ป กวาร์ดิโอล่า ไม่ได้แตกต่างจากนัดล่าสุด ยังให้วิลลี่ กาบาเยโร่ มายืนเฝ้าเสาหลังจากที่เคลาดิโอ้ บราโว่ ยังรักษาตัวจากอาการบาดเจ็บอยู่ แผงหลังเดิมก็รับหน้าที่ต่อโดยมีคู่หูสุดโหดเป็นตัวตั้งรับ อย่างแวงซองต์ กอมพานี่และนิโคลัส โอตาเมนดิ แนวรุกก็ขนกันมาคับคั่งทั้งเลรอย ซาเน่,ดาบิด ซิลบา, เควิน เดอบรอยน์ ราฮิม สเตอร์ลิ่ง และยาย่า ตูเร่ ส่วนตำแหน่งหน้าเป้ายังเป็นของกาเบรียล เฆซุส ในขณะที่เซอร์จิโอ้ อเกวโร่ ติดสำรอง
มาดูฝั่งเลสเตอร์ ซิตี้ ที่อยู่ในจุดปลอดภัย ไม่ต้องดิ้นรนจากการตกชั้น แถมฟอร์มร้อนแรงด้วยการชนะสองนัดในลีกติดต่อกันด้วย ชัยชนะที่ยิ่งใหญ่คือจัดการวัตฟอร์ด 3-0 นัดนี้กุนซือเคร็ก เช็คสเปียร์ ไม่มีหัวหอกสำคัญในแดนหลังอย่างโรเบิร์ต ฮูธ และเวสต์ มอร์แกน แต่ส่งโยฮาน เบนาลูยานและคริสเตียน ฟุคส์ มาแทน
เปิดเกมมา 3 นาที ซาเน่ก็เปิดลูกคอร์นอร์ให้แฟร์นันดินโญ่โหม่งซัลโวอย่างแรง แต่บอลหลุดเสาแรก
นาทีต่อมา อาคันตุกะได้โอกาสบ้าง วาร์ดี้ตัดบอลตัดหน้าโอตาเมนดิไปได้ แต่ยิงแป๊ก ไม่ได้ทำให้กาบาเยโร่ลำบากใจแต่อย่างใด
ซาเน่เกือบเบิกสกอร์ได้ในนาทีที่ 19 หลังจากที่ซิลบาจ่ายบอลให้ตรงระยะหกหลา แต่แข้งเยอรมันยังซัดไม่ตรงกรอบ
นาทีที่ 20 เป็นโอกาสทองของซิตี้ ซิลบาได้บอลมาครองในจังหวะสอง เขาแต่งให้ซาเน่ที่ซัลโวในระยะสิบหลา แต่บอลกลับโดนเท้าชิลเวลล์ กลายเป็นลูกคอร์เนอร์
ในที่สุด เวลาที่ชาวเอทิฮัดรอคอยก็มาถึง เมื่อซาเน่จ่ายบอลต่ำตัดใปเข้าเท้าดาบิด ซิลบา พอดิบพอดี แข้งสเปนซัดทันทีตุงตาข่าย หมดทางที่ชไมเคิลจะสกัดไว้ได้ แม้ว่าแฟนฝั่งทีมเยือนจะฟ้องกรรมการว่าสเตอร์ลิ่งทำออฟไซด์ แต่ผู้ตัดสินโรเบิร์ต แมดลีย์ ไม่เปลี่ยนใจ ทำให้ซิตี้ขึ้นนำ 1-0 ในนาทีที่ 29
เสียงเชียร์กึกก้องสนามอีกครั้ง เมื่อเจ้าบ้านพังประตูที่สอง จากการยิงจุดโทษของกาเบรียล เฆซุส เมื่อซาเน่เลี้ยงจี้ขึ้นหน้าเข้าในไปเขตโทษได้ แต่โยฮัน เบอนาลูยาน ได้เข้ามาเสียบขาชิงบอลทำให้ซาเน่ล้มลงในเขตโทษ นี่เป็นการสังหารจุดโทษครั้งแรกของแข้งบราซิล แมนซิตี้ขึ้นนำเป็น 2-0 ในนาทีที่ 36
แต่ความฝันในการเก็บคลีนชีทก็หมดไปเมื่อทีมเยือนได้ประตูไล่ตามมาในนาทีที่ 41 ชินจิ โอกาซากิ ใช้เท้าซ้ายวอลเลย์ตูมเดียวตีไข่แตก หลังจากรับลูกตัดของมาร์ค อัลไบรท์ตัน สกอร์เปลี่ยนเป็น 2-1
ครึ่งหลัง อาจไม่เร้าใจเท่าครึ่งแรก แต่ซิตี้ก็ได้โอกาสทำประตูในนาทีที่ 70 เฆซุสได้ซัลโวจังหวะแรก แต่ไม่เข้าตาข่าย ในขณะที่ราฮิมก็ไม่สามารถตามซ้ำจังหวะสองตรงเสาใกล้ได้
นาทีระทึกขวัญเกิดขึ้นเมื่อผู้ตัดสินระบุให้เลสเตอร์ได้ยิงจุดโทษ ริยาด มาห์เรซ รับหน้าที่มาสังหารจุดโทษ และยิงเข้าประตูไป แต่กรรมการโรเบิร์ตไม่ให้เป็นประตู เพราะจังหวะที่ยิงด้วยเท้าซ้าย มาห์เรซเสียหลักลื่นล้น ทำให้เท้าขวาไปโดนบอลก่อนที่บอลจะเข้าตรงกรอบ ผู้ตัดสินจึงเป่าฟาวล์เพราะถือว่าว่าเป็นการเล่นบอลสองจังหวะ
นัดนี้ สาวกเรือใบสีฟ้าลุ้นจนหืดจับ เพราะกรรมการทดเวลาเจ็บ 7 นาที ก่อนหมดเวลาเซอร์จิโอ้ อเกวโร่ และซาบาเลต้าได้ออกมาวาดลวดลายให้แฟนๆ ได้ชื่นใจ
แอ๊พซิตี้ แมตช์เดย โหวตให้ดาบิด ซิลบา เป็นแมนออฟเดอะแมตช์ จากการเบิกสกอร์ที่งดงามและโชว์ฟอร์มได้เยี่ยมยอดตลอดเกม
ขณะนี้แมนซิตี้มี 72 คะแนน แซงลิเวอร์พูลกลับมาอยู่อันดับ 3 อีกครั้ง ด้านเลสเตอร์มี 43 คะแนน ยังรั้งอันดับ 9
ทั้งนี้ สองเกมสุดท้ายก่อนปิดฤดูกาล ซิตี้จะเป็นเจ้าบ้านนัดสุดท้ายปะทะเวสต์ บรอมวิช ในคืนวันอังคาร 16 พ.ค. ตามด้วยนัดสุดท้ายเยือนวัตฟอร์ดในวันอาทิตย์ที่ 21 พ.ค.