พาลเมอร์ กลายเป็นแข้งดาวรุ่งคนที่ 3 ที่ทำประตูในแชมเปียนส์ลีกสำหรับซิตี้ ตามรอยโฟเด้นและอิเฮนาโช่ ยังพาบอลเข้าเขตโทษและเอี้ยวตัวยิงเข้าไปอย่างสวยงาม
ลูกทีมของเป๊ป กวาดิโอล่า เริ่มต้นด้วยการจู่โจมอย่างดุเดือด และยิงประตูใส่เจ้าบ้านในทันที
ความกดดันอย่างต่อเนื่องเกิดขึ้นในช่วงครึ่งชั่วโมงแรก ฟิล โฟเด้น เก็บบอลกลางสนามก่อนทิ้งออกซ้ายให้ เจา กันเซโล่ หลุดกับดักล้ำหน้าสอดเข้าเขตโทษพักอก และได้ช่องดีดลอดขา ซิมง มิโญเล่ต์ ไปแบบเหนือชั้น
DOWNLOAD THE MAN CITY APP
จากนั้นซิตี้มาทิ้งห่างเป็น 2-0 จากความผิดพลาดของ สแตนลี่ย์ เอ็นโซกี้ เข้าบอลช้าไปเสียบข้อเท้า ริยาด มาห์เรซ ร่วงในเขตโทษ ผู้ตัดสิน เป่าให้จุดโทษทันทีและเป็น มาห์เรซ ลุกขึ้นมาสังหารไม่พลาด หมดครึ่งเวลาแรก คลับ บรูช 0 แมนฯ ซิตี้ 2
กลับมาเตะครึ่งหลัง ในนาทีที่ 53 ซิตี้ขยับเพิ่มเป็น 3-0 จากจังหวะจ่ายบอลสุดเหนือชั้นของ เควิน เดอ บรอยน์ แตะเข้าเขตโทษให้ ไคล์ วอล์คเกอร์ สอดขึ้นมาหักข้อด้วยขวาผ่านมือ ซิมง มิโญเล่ต์ เสียบโคนเสาไกลเข้าไป
เข้าสู่ช่วง 1 ชม.เต็มของเกม โคล พาลเมอร์ ที่ได้เปลี่ยนตัวลงมาก่อนหน้านั้นเพียง 2 นาที ได้จังหวะซัด จากที่ราฮีม สเตอร์ลิ่ง กระชากขึ้นมาทางซ้ายก่อนตบย้อนเข้าในให้เจ้าตัว แตะเข้าเขตโทษเอียงตัวปั่นด้วยซ้ายผ่านมือ ซิมง มิโญเล่ต์ ซุกก้นตาข่ายอย่างสวยงาม เป็นประตูแรกในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ของเจ้าตัว
CITY+ | SIGN UP TO ACCESS EXCLUSIVE CONTENT
จนมาในนาทีที่ 81 เจ้าถิ่น ตีไข่แตกไล่มาเป็น 1-4 จากบอลทางขวาครอสเข้าเขตโทษแฉลบมาเข้าทาง ฮานส์ วานาเค่น โฉบมาตั้งเท้าแปด้วยขวาผ่านมือ เอแดร์ซอน เข้าประตูไป
แต่แล้วอีกเพียงแค่ 3 นาทีถัดมา ซิตี้ก็มาได้ประตูปิดกล่องเป็น 5-1 คราวนี้เป็น แฟร์นันดินโญ่ ทิ้งบอลยาวให้ ริยาด มาห์เรซ หลุดกับดักล้ำหน้าสอดขึ้นมาซัดแสกหน้า ซิมง มิโญเล่ต์ เข้าไป ผู้ตัดสินเช็ควีเออาร์ ก่อนยืนยันให้เป็นประตู หลังจากนั้นไม่มีสกอร์เพิ่ม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกมาเอาชนะคลับ บรูซ ไปด้วยสกอร์ 5-1
รับชมทุกแอ็คชั่นได้ที่อัลบั้มภาพด้านล่าง...