ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ กองหน้าอาร์เจนไตน์ ย้ายจากริเวอร์ เพลท ยักษ์ใหญ่อเมริกาใต้ สู่เอติฮัด สเตเดี้ยมเป็นที่เรียบร้อย

นักเตะวัย 22 ปีเซ็นสัญญา 5 ปีเมื่อต้นปีที่ผ่านมา, และจะเป็นส่วนหนึ่งในทีมของเป๊ป กวาร์ดิโอล่าสำหรับฤดูกาล 2022/23 ที่จะถึงนี้

และต่อไปนี้คือ 10 เรื่องราวที่คุณอาจยังไม่รู้เกี่ยวกับนักเตะคนใหม่ของเรา...

BUY YOUR ALVAREZ 19 SHIRT NOW

1. ฉายแววเก่งตั้งแต่ยังเด็ก

โค้ชคนแรกของเขา ราฟาเอล วาราส, ซึ่งทำงานเป็นคนขับรถส่งของในตอนกลางวัน และทำงานเป็นโค้ชของทีมแอตเลติโกในตอนกลางคืน, ได้ตระหนักถึงพรสวรรค์อันวิเศษของอัลวาเรซตั้งแต่อายุยังน้อย

“ฮูเลี่ยนมักจะเล่นอยู่กับลูกบอลเสมอ และเขาในตอนนั้น ก็เป็นเหมือนกับเขาในวันนี้ – แค่เป็นในร่างจิ๋ว” วาราสเล่าเมื่อต้นปีที่ผ่านมา

“เขาเป็นคนเงียบ ๆ มีความรับผิดชอบ และมีสมาธิมาก เขาเล่นฟุตบอลได้อย่างเป็นธรรมชาติเสมอมา”

“ผมจำได้อยู่ประตูนึง ตอนที่เขาอายุประมาณ 8-9 ขวบ, เมื่อเขาเอาชนะคู่แข่งได้ 4-5 คน และยิงประตูแบบราโบน่าได้ (ยิ้งไขว้)”

“นั่นคือตอนที่ผมรู้ทันที่ว่าเรามีนักเตะที่แตกต่างอยู่ในทีม ที่จะสามารถก้าวไปเป็นดาวดังระดับโลกได้

“ผมไม่ใช่ครูของเขาหรอก, คุณจะสอนนักเตะอย่างฮูเลี่ยนได้อย่างไร? คุณสามารถทำได้แค่แนะนำเท่านั้น”

2. พื้นหลังที่สุดแสนธรรมดา

ความอ่อนน้อมถ่อมตนถูกปลูกฝังอยู่ในตัวตนของอัลวาเรซตั้งแต่อายุยังน้อย, เนื่องจากเขาไม่ได้เติบโตขึ้นมาในครอบครัวที่ร่ำรวย

กุสตาโว พ่อของเขาหาเลี้ยงชีพด้วยการทำงานในโรงงานธัญพืช, ในขณะที่มาเรียน่าแม่ของเขาเป็นครูอนุบาล โดยที่ทั้งพ่อและแม่ให้การสนับสนุนอย่างมากต่อลูกชายของพวกเขาการเล่นฟุตบอลตั้งแต่เริ่มต้น

3. ของจริง

ในตอนที่เขาอายุ 11 ปี, อัลวาเรซได้ทดสอบฝีเท้ากับทั้งโบค่า จูเนียร์สและเรอัล มาดริด, โดยยิงได้ 2 ประตูช่วยให้ทีม ‘ราชันชุดขาว’ คว้าแชมป์ทัวร์นาเมนท์เยาวชน ในระหว่างที่เขาทดสอบฝีเท้าเป็นระยะเวลา 1 เดือนกับมาดริด 

“ผมลงเล่น 5 เกมในทัวร์นาเมนท์ Peralanda และยิงได้ 2 ประตู, เราชนะเรอัล เบติสในนัดชิงชนะเลิศ และผมยิงประตูชัย” อัลวาเรซกล่าวกับสื่อเมืองมาดริด  “ผมยังได้เล่นเกมเอล กลาซิโก้กับบาร์เซโลน่าด้วย”

อย่างไรก็ตาม การเซ็นสัญญาไม่เกิดขึ้นหลังจากการทดสอบฝีเท้าในครั้งนั้น, ส่วนหนึ่งเนื่องจากกฏการจำกัดอายุในการเซ็นสัญญากับเยาวชนต่างชาติของประเทศสเปน โดยที่ไม่สามารถเซ็นสัญญากับเยาวชนอายุต่ำกว่า 13 ปีได้

และภายในเวลาไม่กี่ปีหลังจากนั้น, อัลวาเรซก็ย้ายไปร่วมทีมริเวอร์ เพลท ในปี 2016

4. ไม่ลืมบุญคุณ 

อัลวาเรซไม่เคยลืมบุญคุณของโค้ชคนแรกของเขา, ในฤดูใบผลิปี 2020 หลังจากที่ได้แจ้งเกิดที่ริเวอร์เพลท เขาได้แสดงความกตัญญูด้วยการซื้อรถตู้ส่งของคันใหม่ให้โค้ชวาราส

โดยวาราสยอมรับว่าเขาน้ำตาไหลเมื่อพ่อของอัลวาเรซปรากฏตัวอยู่หน้าบ้านของเขา พร้อมกับกุญแจรถตู้คันใหม่

5. ประสบการณ์อันล้ำค่า

หลังจากสร้างความประทับใจในระดับเยาวชนทั้งกับสโมสรริเวอร์ เพลทและทีมชาติอาร์เจนติน่า

ในช่วงฤดูร้อนปี 2018, ในช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่รัสเซีย - อัลวาเรซได้เป็นส่วนหนึ่งในกลุ่มนักเตะเยาวชนอาร์เจนติน่า ที่ได้รับเชิญให้ร่วมเดินทางไปประเทศรัสเซียกับทีมชาติชุดใหญ่, เพื่อร่วมฝึกซ้อมเก็บเกี่ยวประสบการณ์

โดยเขาได้รับประสบการณ์เต็ม ๆ ในการฝึกซ้อมร่วมกับนักเตะรุ่นพี่อย่างลีโอเนล เมสซี่ รวมถึงเซอร์จิโอ อเกวโร่, และเมื่อเขากลับมาที่ริเวอร์ เพลทในช่วงก่อนเริ่มต้นฤดูกาล 2018/19 เขาก็ได้ถูกดันขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่โดยผู้จัดการทีม มาร์เซโล่ กัลลาร์โด้

6. ความสำเร็จในเวทีระดับทวีป

ต่อมาอัลวาเรซได้ประเดิมลงสนามกับริเวอร์ เพลทในเดือนตุลาคม 2018 พร้อมกับเสื้อหมายเลข 9, โดยกัลลาร์โด้ประกาศว่า: “เขาเป็นผู้เล่นที่ผู้จัดการทีมทุกคนต้องการ”

นั่นคือความเชื่อมั่นของโค้ชที่มีต่อดาวรุ่งรายนี้

อัลวาเรซได้ลิ้มรสความสำเร็จในระดับทวีปอย่างรวดเร็ว, โดยลงสนามเป็นตัวสำรองในเกมเลกที่ 2 ของนัดชิงชนะเลิศโคปา ลิเบอร์ตาดอเรส 2018, ที่ริเวอร์เพลทเอาชนะโบคา จูเนียร์สคว้าแชมป์ไปครองได้สำเร็จ

โดยเกมนี้ต้องย้ายไปเล่นที่สนามเบอร์นาเบวของเรอัล มาดริด เนื่องจากมีความกังวลว่าจะเกิดปัญหาจากกลุ่มแฟนบอลในอาร์เจนติน่า, โดยริเวอร์เพลทเอาชนะไปได้ 3-1 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ (สกอร์รวม 5-3)

การแข่งขันรายการนี้เทียบเท่ากับแชมป์เปี้ยนส์ลีกของทวีปอเมริกาใต้  และนับเป็นครั้งแรกที่ยักษ์ใหญ่อาร์เจนติน่าทั้ง 2 ได้โคจรมาพบกันในนัดชิงฯ

7. ดาวซัลโว

หลังจากทำประตูแรกกับทีมชุดใหญ่ริเวอร์ เพลทได้ในเดือนมีนาคม 2019, ในเกมที่คว้าชัยเหนืออินดิเพนเดนเต้ - จากนั้นเขาก็ทำประตูในนัดชิงโคปา อาร์เจนติน่า พาทีมคว้าชัยเหนือเซนทรัล คอร์โดบา 3-0 

หลังจากนั้น, อัลวาเรซจบฤดูกาล Primera Division 2021 ด้วยตำแหน่งดาวซัลโวของลีก - โดยทำได้ 20 ประตูจากการลงสนาม 35 เกม และยังได้รับเลือกให้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของทวีปอเมริกาใต้อีกด้วย

8. ยุโรปคือความฝัน

จากการให้สัมภาษณ์ในปี 2020 อัลวาเรซเปิดเผยถึงความฝันในการลงเล่นในเวทียุโรปของเขา

“การเล่นในยุโรปเป็นความฝันของคนส่วนใหญ่ เพราะคุณภาพของลีก และมีความหมายอย่างมากในการได้อยู่กับสโมสรเหล่านั้น” เขายอมรับกับสื่อ Radio La Red

“แต่ผมไม่รีบร้อน, เวลานั้นมันก็จะมาเอง จากการที่ผมกำลังทำงานหนักอยู่ในตอนนี้ - ในเกม Playstation ผมเล่นทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้หรือบาร์เซโลน่า!”

9. เส้นทางในทีมชาติ

หลังจากได้ลงเล่นกับทีมชาติอาร์เจนติน่ารุ่นอายุต่ำกว่า 20 ปี และได้ลงเล่นในศึกฟุตบอลโลก U-20 ในปี 2019

อัลวาเรซได้ประเดิมสนามลงเล่นให้ทีมชาติอาร์เจนติน่าชุดใหญ่ในเดือนมิถุนายน 2021 ในการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกกับทีมชาติชิลี

เขายังเป็นส่วนหนึ่งของทีมอาร์เจนติน่า ในชุดที่คว้าแชมป์โคปา อเมริกาปี 2021 ที่ประเทศบราซิล

ต่อมาอัลวาเรซทำประตูแรกให้กับทีมชาติในเดือนมีนาคม 2022 ในศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก ที่เสมอเอกวาดอร์ไป 1-1

10. ยิง 6 ประตูกระหึ่มทวีป

ความสามารถของอัลวาเรซเป็นที่ประจักต์มากขึ้นต่อสายตาชาวโลกเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมานี้, เมื่อเขาเหมาคนเดียว 6 ประตู ในเกมที่ริเวอร์เพลทถล่มอลิอันซ์ ลิมา 8-1 ในศึกโคปา ลิเบอร์ตาดอเรสรอบแบ่งกลุ่ม

จากผลงานดังกล่าวทำให้ชื่อของอัลวาเรซ ถูกจารึกอยู่ในประวัติศาสตร์ของทวีปอเมริกาใต้, โดยเขาได้กลายเป็นผู้เล่นคนที่ 2 ที่ยิงได้ถึง 6 ประตูในเกมเดียว ในรายการลิเบอร์ตาดอเรส, และเป็นผู้เล่นจากริเวอร์ เพลทคนแรกที่ทำแบบนี้ได้

ผู้เล่นคนสุดท้ายที่ยิงถึง 6 ประตูในเกมเดียวคือ ฮวน คาร์ลอส ที่เคยทำไว้ในปี 1985 กับสโมสรคลับ บลูมมิ่ง

Erling Haaland, Kalvin Phillips, Julian Alvarez, and Stefan Ortega Moreno will all be introduced to City fans at a special event this Sunday 10 July. Find out how you can meet our new signings or follow live on our official channels.