ทีมของเป๊ป กวาดิโอล่า ลงเล่นโดยทำประตูได้ 17 ประตูจาก 4 นัดก่อนหน้านั้น แต่ต้องมาสะดุดในเกมเจอกับเซาท์แธมป์ตันเกมนี้ ที่เสมอกันไป 0-0
ตรงกันข้ามกับชัยชนะเมื่อกลางสัปดาห์เหนือไลป์ซิก ถือเป็นเกมที่เราทำปลงานได้ไม่ค่อยน่าพึงพอใจ ซึ่งเกมดังกล่าว มีการตัดสินใจจาก VAR ถึงสองครั้ง
ราฮีม สเตอร์ลิ่ง คิดว่าเขาได้ทำประตูชัยในนาทีที่ 90 เมื่อได้เข้าไปซ้ำจ่อ ๆ หลังลูกโหม่งของฟิล โฟเด้น ตัวสำรองที่เปลี่ยนลงมา แต่แฟน ๆ ก็มีความสุขได้เพียงชั่วขณะเดียว เมื่อ VAR ได้เช็ค และตัดสินว่าผู้ช่วยผู้ตัดสิน ประเมินลูกนี้เป็นลูกล้ำหน้าอย่างถูกต้อง
มันเจ็บปวดสำหรับเจ้าถิ่นอย่างเรา ซึ่งได้รับประโยชน์จากการพิจารณา VAR ก่อนหน้านี้ ซึ่งทำให้ไคล์วอล์คเกอร์ ไม่โดนใบแดงและเสียจุดโทษต่อเซาท์แธมป์ตัน หลังจากผู้ตัดสิน จอน มอสส์ เช็คจอภาพด้านข้างสนาม และตัดสินว่าแบ็คขวาซิตี้ ไม่ได้ทำผิดกติกาใส่อดัม อาร์มสตรอง ขณะที่เขาพุ่งเข้าไปในกรอบเขตโทษ
ทั้งหมดนี่เป็นเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้น ในเกมการแข่งขันที่ทั้งสองฝ่ายพยายามดิ้นรนเพื่อสร้างโอกาสที่ชัดเจน
โอกาสที่ดีที่สุดของเรากลายเป็นของ อิลคาย กุนโดกัน ที่โหม่งในระยะ 6 หลา จากการครอสที่แม่นยำของวอล์คเกอร์ ขณะเดียวกันแยน เบดนาเร็ค ก็สกิดลูกยิงของกาเบรียล เฆซุส ที่พยายามยิงไปที่มุมบนของตาข่ายให้ออกไปด้วยเช่นกัน
ลูกทีมของราล์ฟ ฮาเซนฮุตเทิ่ล ตั้งรับอย่างอดทน และเหนียวแน่น เพื่อปกป้องเกมรุก ของทีมที่ทำสกอร์ได้อย่างอิสระในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่พวกเขาก็ยังพยายามสร้างสิ่งที่มีความหมายเช่นกัน
เช อดัมส์ ลากบอลเข้าไปจากจังหวะโต้กลับ แต่เอแดร์สันยังรับไว้ได้สบาย ด้านเจ้าถิ่นซิตี้ก็พยายามอย่างหนักที่สุด ในการอยากเป็นผู้ชนะในช่วงท้ายการแข่งขัน
เป๊ป ส่ง เดอ บรอยน์ และมาห์เรซ ไปพร้อมกับโฟเด้น เพื่อพยายามผลักดันให้เกิดความเปลี่ยนแปลง
สเตอร์ลิ่งคิดว่าเขาทำได้แล้ว และเหล่ากองเชียร์ซิตี้ที่เอติฮัด ก็รออย่างมีความหวังเมื่อแจ็ค กรีลิช ตัดบอลคืนให้เดอ บรอยน์ ในช่วงก่อนหมดเวลา แต่ความพยายามของยอดมิดฟิลด์ชาวเบลเยียม ก็ถูกขัดขวางเอาไว้อีกครั้ง
ประตูที่เคยเกิดขึ้นมากมายถูกหยุดลง
แมนฯ ซิตี้ นั้นไม่สามารถทำลายเกมรับที่เหนียวแน่นลงได้ ไม่ใช่ว่าเราไม่พยายาม
ทั้งสองฝ่ายต่างมีส่วนร่วมในการทำให้ผลออกมาเสมอกันแบบไร้สกอร์ เป็นไปอย่างสนุกสนาน และเซาแธมป์ตันจะพอใจกับผลงานของพวกเขาอย่างถูกต้อง แม้จะต้องรอไปอีกหนึ่งสัปดาห์เพื่อชัยชนะครั้งแรกของฤดูกาล
ลูกทีมของฮาเซนฮุทเทิ่ล พบกับความท้าทายในการเผชิญหน้ากับแชมป์เปี้ยน และรักษาเกมรับไว้ได้ดีในแผนการ เพื่อให้เป็นการแข่งขันที่ได้ 1 แต้มกลับบ้าน อย่างไรก็ตามเจ้าถิ่นซิตี้ ยังสร้างโอกาสได้มากกว่า
เฆซุสได้โหม่งบอลจากมุมแคบ หลังจากแฟร์นันดินโญ่ ตักบอลข้ามมาให้ ขณะที่สเตอร์ลิ่งยิงถากเสาออกไป หลังจากได้บอลจากทะลุมาจากกรีลิช
แต่บางทีสัญญาณที่ชัดเจนว่าเกมนี้ มันจะไม่ได้เป็นวันของซิตี้ ก็คือการโดนเกมสวนกลับในครึ่งแรกที่บ่อยครั้งขึ้นเรื่อย ๆ
หลังจากที่ได้ครองบอลในฝั่งตรงข้าม สเตอร์ลิ่งก็ให้บอลกับเฆซุสที่กราบขวา แต่แข้งชาวบราซิลที่ปาดบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษนั้น อยู่ไกลเกินเอื้อมจากการเข้าชาร์จของแบร์นาร์โด้ไปอย่างน่าเสียดาย
จังหวะแบบนี้ โดยปกติแล้วจะเป็นหัวใจของการเล่นของเรา ช่วงเวลาเหล่านั้นในเกมนี้มีน้อยและห่างไกลเมื่อต้องเจอกับการป้องกันของทีมเยือน ที่บีบทำให้เราต้องเล่นอยู่ในตำแหน่ง
เป๊ป กวาดิโอล่า: เกมปกติของเราขาดหายไป
“เราไม่ชนะเกมนี้ เพราะบอลถูกลำเลียงไปข้างหน้าได้ไม่ดี พวกเขามี 4 หรือ 5 คน ในกรอบเขตโทษ พวกเขาปักหลักอยู่แบบนั้น [การไม่เซ็นสัญญากับกองหน้า] ไม่ใช่เหตุผลที่ [เราทำประตูไม่ได้]
“นั่นเป็นเพราะเราไม่ได้ทำกระบวนการของเรา กับแบ็คโฟร์และแฟร์นันดินโญ่ ผู้เล่น 5 คนนั้นต้องส่งบอลไปข้างหน้าเพื่อคนอื่น ๆ”
“วันนี้เราขาดความสด น่าเสียดาย พวกเขามีโอกาส 4 หรือ 5 ครั้ง และไม่ได้จู่โจมใส่เรามากเลย”
“เราเป็นแบบนั้นและไม่สามารถหาโอกาสจบที่ดีได้ในพื้นที่สุดท้าย มันต้องเกิดขึ้นจากพื้นที่สุดเส้นและบริเวณนั้นเราก็ทำได้ไม่ดี”
สถิติที่เกิดขึ้น
ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ลงเล่นในพรีเมียร์ลีกเป็นนัดที่ 200 ให้กับซิตี้ เป็นผู้เล่นคนที่ 9 ที่ทำสถิตินี้ให้กับสโมสร และเป็นนักเตะอังกฤษคนที่ 2 ต่อจากโจ ฮาร์ท
หมายความว่าอย่างไร
การเสมอกันทำให้ซิตี้ขยับขึ้นรั้งรองจ่าฝูงในพรีเมียร์ลีก ตามหลังลิเวอร์พูล 3 แต้ม ที่เอาชนะคริสตัล พาเลซ 3-0
อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามผลการแข่งขันของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เชลซี, เอฟเวอร์ตัน, ไบรท์ตันและท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ทุกทีมสามารถกระโดดข้ามเราได้หากพวกเขาเก็บสามแต้มได้ในเกมวันอาทิตย์
ไลน์อัพ
แมนฯ ซิตี้ : เอแดร์สัน- ไคล์ วอล์คเกอร์, รูเบน ดิอาส, นาธาน อาเก้, เจา กันเซโล่ - แบร์นาโด้ ซิลวา (ฟิล โฟเด้น น.73), แฟร์นันดินโญ่ (เควิน เดอ บรอยน์ น.69), อิลคาย กุนโดกัน - ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, กาเบรียล เฆซุส (ริยาด มาห์เรซ น.70 ), แจ็ค กรีลิช
สำรอง: คาร์สัน, ตอร์เรส, เอ็มบีเต้, พาลเมอร์, ลาเวีย, วิลสัน-เอสแบรนด์
เซาธ์แฮมป์ตัน : อเล็กซ์ แม็คคาร์ธี่ - วาเลนติโน่ ลิฟราเมนโต้, แจ็ค สตีเฟ่นส์ (โมฮัมเหม็ด ซาลิซู น.37), ยาน เบดนาเร็ค, ไคล์ วอล์คเกอร์-ปีเตอร์ส - โอริโอล โรเมว - เนธาน เร้ดมอนด์, เจมส์ วอร์ด-เพร้าส์, โมฮาเหม็ด เอลยูนุสซี่, เช อดัมส์ (อาร์มานโด โบรยา น.70)- อดัม อาร์มสตรอง
สำรอง: ฟรอสเตอร์, ลียังโก้ ,เฌเนโป, เตลล่า, ไดยาโล่, วาเลรี่
News about Man City v Saints
ไฮไลท์: แมนฯ ซิตี้ 0-0 เซาท์แธมป์ตัน
ย้อนกลับไปชมไฮไลท์ในเกมที่ไม่มีสกอร์เกิดขึ้น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-0 เซาท์แธมป์ตัน Watch more
โกเตอร์: เราจะกลับมาอย่างรวดเร็ว!
ฌอน โกเตอร์ เชื่อว่าซิตี้จะปัดฝุ่นตัวเอง หลังจากเกมเสมอ 0-0 กับเซาท์แธมป์ตัน และกลับไปสู่ชัยชนะอย่างรวดเร็ว Read more
แกลอรี่: ซิตี้เตรียมทีมรับมือ 'นักบุญแดนใต้'
รับชมรูปภาพจากการฝึกซ้อมที่ CFA.. View more
กวาดิโอล่ายอมรับ เป็นเกมที่ทีมโชว์ฟอร์มได้ไม่ตามปกติ
เป๊ป กวาดิโอล่า กล่าวว่าการเล่นของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไม่ได้มาตรฐานตามปกติ ในการเสมอกับเซาท์แธมป์ตันแบบไร้สกอร์ Read more
ดิอาส ภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มผู้นำในทีม
รูเบน ดิอาส พูดถึงความภาคภูมิใจของเขา หลังจากได้รับแต่งตั้งให้เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มผู้นำในทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ Read more
สารพัดประโยชน์! เป๊ปเผยโฟเด้นเล่นได้ 5 ตำแหน่ง
เป๊ป กวาดิโอล่าเปิดเผยว่าเขาไม่เคยประสบปัญหาในการหาตำแหน่งลงเล่นให้กับฟิล โฟเด้น Read more
กวาดิโอล่า: ซิตี้ขาด 'ความสดในจิตใจ'
เป๊ป กวาดิโอล่ากล่าวว่าวันนี้ลูกทีมของเขาได้ขาด 'ความสดในจิตใจ' นั่นเป็นอีกหนึ่งในเหตุผลที่ไม่สามารถทำประตูได้ในเกมนี้ Watch more
กวาดิโอล่า: ดิอาส ถูกเพิ่มเข้าลิสต์ของผู้ที่จะได้รับตำแหน่งกัปตัน
รูเบน ดิอาส ได้เป็นกัปตันทีมซิตี้ครั้งแรกในเกมกับแอร์เบ ไลป์ซิก เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยผู้จัดการทีมยืนยันว่ากองหลังชาวโปรตุเกสถูกเพิ่มเข้าไปในกลุ่มผู้นำที่จะสวมปลอกแขนกัปตันในฤดูกาลนี้ Read more