เฟร์ราน ตอร์เรส เบิกสกอร์แรก และเป็นการยิงประตูในเกม UCL ได้เป็นนัดที่ 3 ติดต่อกัน เฆซุส เปลี่ยนตัวลงมายิงประตูที่ 2
และเจา กันเซโล่ ซัดปิดท้าย พาซิตี้เก็บ 9 คะแนนเต็ม เข้าใกล้โอกาสผ่านเข้ารอบในกลุ่มซีเต็มที
เกิดอะไรขึ้นบ้าง?
"เรือใบสีฟ้า" ของกุนซือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กำลังทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจหลังคว้าชัยเหนือ โอลิมปิก มาร์กเซย 3-0 ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่แล้ว ก่อนบุกไปเฉือน เชฟฯยูไน เต็ด 1-0 ในเกมลีกนัดล่าสุดทำให้เจ้าบ้านชนะมา 2 เกมติดต่อกัน
5 นาทีผ่านเป็น "เรือใบสีฟ้า" ทักทายก่อนจากจังหวะเติมเกมทางขวาของ ไคล์ วอร์คเกอร์ กระชากขึ้นมาปาดเข้าในไปถึง เฟร์ราน ตอร์เรส จับบอลไม่ดีไปเข้าทาง ริยาด มาห์เรซ ตวัดด้วยซ้ายติดบล็อค ป๊าป อาบู ซิสเซ่
จากจังหวะต่อเนื่องเป็นลูกเตะมุมทางขวา ริยาด มาห์เรซ ปั่นโค้งเล็งเสาแรดกมาเข้าทาง เฟร์ราน ตอร์เรส สอดมาไขว้บอลเกือบเสียบเสาแรกติดตัวคุมเส้นสกัดทิ้งช่วย โชเซ่ ซา เอาไว้ได้หวุดหวิด นาทีต่อมาผู้เล่น โอลิมเปียกอส ดูมีปัญหาในการประกบตัวจากลูกเตะมุมฝั่งเดิม เฟร์ราน ตอร์เรส โฉบมาถึงบอลทางเสาแรกอีกครั้งแต่คราวนี้โขกไม่ดีหลุดออกหลังไปเอง
ถัดมาในนาทีที่ 12 แมนฯ ซิตี้ มาได้ประตูออกนำจากจังหวะประสานงานสุดสวยจากกลางสนาม ริยาด มาห์เรซ ตวัดบอลไปแฉลบ ผู้เล่น โอลิมเปียกอส เด้งมาเข้าทาง เควิน เดอ บรอยน์ แทงเร็วให้ เฟร์ราน ตอร์เรส หลุดเข้าไปยิงลอดขา โชเซ่ ซา ไม่มีเหลือ อีก 20 นาทีผ่านเจ้าถิ่น กระหน่ำอยู่ฝ่ายเดียวเกือบบวกสกอร์เพิ่มหลายครั้งจากลูกครอสเข้าในของ ราฮีม สเตอร์ลิง และจังหวะซัดไกลของ เควิน เดอ บรอยน์ แต่ก็ยังไม่ผ่านมือ โชเซ่ ซา
นาทีที่ 27 คราวนี้เป็น ราฮีม สเตอร์ลิง ขอลองบ้างแต่งบอลหนี ราฟินญ่า ได้ช่องปั่นด้วยขวาบนเส้น 18 หลาบอลเบากระดอนพื้นไปเข้ามือ โชเซ่ ซา รับไว้ไม่มีหลุด ต่อมานาทีที่ 32 เจ้าถิ่น หวิดได้ประตูเพิ่มเป็น อิลคาย กุนโดกัน แทงออกซ้ายให้ ริยาด มาห์เรซ ปั่นเข้าในถึง ราฮีม สเตอร์ลิง โดดแปบอลติดเซฟ โชเซ่ ซา ก่อนตามซ้ำเข้าไปเสียดายมีธงล้ำหน้า
ท้ายครึ่งแรก แมนฯ ซิตี้ มาได้เสียวจากลูกปาดเข้าในทางฝั่งขวาของ เฟร์ราน ตอร์เรส และ ไคล์ วอร์คเกอร์ แต่ต้องชม โชเซ่ ซา ขยับออกมาตบทิ้งช่วยทีมเอาไว้ได้ หมดครึ่งเวลาแรก แมนฯ ซิตี้ 1 โอลิมเปียกอส 0
เปิดฉากครึ่งหลัง 5 นาที "เรือใบสีฟ้า" เปิดฉากบุกทันทีจากจังหวะตัดบอลทางขวาสุดท้ายเป็น ฟิล โฟเด้น ตั้งปั้มซัดหน้าหัวกะโหลกบอลบดพุ่งไปเข้ามือ โชเซ่ ซา โอกาสยิงครั้งแรกของ โอลิมเปียกอส ต้องรอถึงนาทีที่ 55 จากลูกซัดในเขตโทษของ มาติเยอ วัลบูเอน่า แต่ก็ยังไม่ดีพอทำให้ เอแดร์ซอน โมราเอส ต้องออกแรง
นาทีที่ 60 ทีมเยือน เกือบชกหมัดเด็ดเป็นจังหวะวางจากกลางสนาม ยุสเซฟ เอล อราบี โฉบตัดหน้า นาธาน อาเก้ เอาบอลลงก่อนซัดแฉลบ จอห์น สโตนส์ เปลี่ยนทางไปติดเซฟ เอแดร์ซอน นิดเดียว 70 นาทีผ่าน แมนฯ ซิตี้ พยายามเร่งเครื่องปิดเกม เฟร์ราน ตอร์เรส เก็บบอลทางฝั่งขวาก่อนหักข้อย้อนให้ เควิน เดอ บรอยน์ ใส่เต็มแรงโดนใต้บอลเหินข้ามคานออกไปไกล
ยังไม่หนำใจนาทีที่ 90 แมนฯ ซิตี้ ปิดกล่องสำเร็จจากจังหวะลุยของ ชูเอา กานเซโล่ ฝากบอลชิ่งกับ ฟีลิกซ์ คาลู นเมชา ก่อนสอดมาปั่นด้วยซ้ายกระดอนพื้นผ่านมือ โชเซ่ ซา ซุกก้นตาข่าย จบเกม แมนฯ ซิตี้ 3 โอลิมเปียกอส 0 "เรือใบสีฟ้า" เก็บ 9 คะแนนเต็มจากการลงสนาม 3 นัดยึดจ่าฝูง กลุ่ม ซี
ตอร์เรส จอมสังหารประจำ UCL
3 เกมในแชมเปี้ยนส์ลีก กับ 3 ประตูของเขา ตอร์เรสกลายเป็นขาประจำจอมซัดประตูให้กับซิตี้ไปแล้วในรายการนี้
แข้งวัย 20 ปี ซัดให้ซิตี้ในเกมกับปอร์โต้ และเกมที่ออกไปเยือนมาร์กเซย และสดๆร้อนๆเมื่อคืนที่ผ่านมากับเกมพบโอลิมเปียกอส เจ้าตัวก็ซัดประตูเบิกร่องให้กับทีมอีกครั้ง
ด้วยอาการบาดเจ็บของทั้งอเกวโร่และเฆซุส ทำให้ตอร์เรสได้รับโอกาสจากกวาดิโอล่าในการลงไปยืนกองหน้า และทำให้เขาได้เพิ่มพูนทักษะการจบสกอร์มากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งการเคลื่อนที่ และการยืนตำแหน่ง ดาวรุ่งชาวสเปนคนนี้ทำได้อย่างครบเครื่อง
20y 248d - Ferran Torres is the third-youngest player in Champions League history to score in four consecutive appearances, behind Kylian Mbappé (18y 120d) and Erling Haaland (19y 107d). Astute. #UCL
— OptaJoe (@OptaJoe) November 3, 2020
หมายความว่าอย่างไร…
ซิตี้นำเป็นจ่าฝูงในกลุ่ม C กับ 9 แต้มเต็ม จาก 3 เกม
ปอร์โต้อยู่อันดับที่สองมี 6 คะแนน และโอลิมเปียกอสที่สาม มี 3 คะแนน และมาร์กเซยยังไม่มีแต้มจากทั้ง 3 เกม
แมตซ์ต่อไปใน UCL เราจะต้องบุกไปเยือนโอลิมเปียกอสบ้าง ในเกมนัดที่ 4 เพื่อการันตีการเข้ารอบต่อไป
โปรแกรมถัดไป?
ซิตี้จะกลับมาเตะพรีเมียร์ลีกเจอกับบิ๊กแมตซ์ ปะทะ ลิเวอร์พูล ที่เอติฮัด สเตเดียม คืนวันอาทิตย์นี้ 23.30 น.
ไลน์-อัพ
แมนฯซิตี้ : เอแดร์ซอน โมราเอส - ไคล์ วอร์คเกอร์ (ชูเอา กานเซโล่ น.85), จอห์น สโตนส์, นาธาน อาเก้, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ - เควิน เดอ บรอยน์ (ฟีลิกซ์ คาลู นเมชา น.85), อิลคาย กุนโดกัน, ฟิล โฟเด้น (โรดริโก้ เฮอร์นันเดซ น.69) - ริยาด มาห์เรซ (กาเบรียล เชซุส น.69), เฟร์ราน ตอร์เรส, ราฮีม สเตอร์ลิง (แบร์นาร์โด้ ซิลวา น.82)
สำรอง: สเตฟเฟ่น, ทราฟฟอร์ด, ดิอาส, ลาปอร์กต์, การ์เซีย, เบอร์นาเบ้
สถิติที่เกิดขึ้น
ซิตี้ทำไปทั้งหมด 44 ประตู ใน 16 แมตซ์ล่าสุดในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก และรวมสถิติทั้งสองซีซั่นที่ผ่านมา เราชนะ 16 นัด เสมอ 3 นัด แพ้ 3 นัด ยิงได้ 60 ลูก เสียไป 22 ลูก
ซิตี้ไม่เคยแพ้เกมในบ้านมาแล้ว 10 ครั้ง ใน UCL (ชนะ 9 เสมอ 1) ตั้งแต่พ่ายลียง 2-1 เมื่อซีซั่น 2018/19
3 - Since conceding five goals against Leicester, Manchester City have conceded only three goals in their following eight games, while they have kept a clean sheet in three consecutive matches in all competitions for the first time since September of last year. Priorities. #UCL pic.twitter.com/ZROjH2AWxp
— OptaJoe (@OptaJoe) November 3, 2020