ในฐานะแฟนบอล หนึ่งสิ่งที่จะสามารถแสดงความรักความผูกพันที่มีต่อทีมรักได้ก็คือ ‘เสื้อแข่ง’ ซึ่งแฟนบอลส่วนใหญ่ก็มักจะหาซื้อมาใส่กันในทุก ๆ ฤดูกาล เรียกได้ว่ามีการเปิดตัวเสื้อแข่งฤดูกาลใหม่มาเมื่อไหร่ เป็นต้องหาซื้อมาใส่
แต่ไม่ใช่ทุกคนจะเป็นแบบนั้น...
ภูมิ อิสระพงษ์ อิสระพงษ์ ซิติเซนส์จากจังหวัดสระบุรี คือผู้ที่หลงใหลในการสะสมเสื้อฟุตบอลเป็นชีวิตจิตใจ โดยเขาเริ่มต้นสะสมเสื้อมาตั้งแต่ปี 2014 โดยมีหลักในการสะสมอยู่ 2 ข้อหลัก ๆ
ข้อแรก เขาจะเลือกเก็บสะสมเสื้อแข่งรุ่นเก่าเป็นส่วนใหญ่ (ยิ่งเก่ายิ่งดี) และสอง, ต้องเป็นเสื้อแข่งของแมนเชสเตอร์ ซิตี้เท่านั้น
“ถ้าถามว่าชอบเสื้อใหม่มั้ย ผมก็ชอบนะ แต่ถ้าให้เลือกผมเลือกเสื้อเก่าก่อน
“เสื้อรุ่นใหม่ผมก็ซื้อ แต่ผมชอบจะรอให้มันผ่านไปซัก 2-3 ฤดูกาลก่อน ค่อยหามาเก็บไว้
“แต่ผมคิดว่าเสื้อเก่า ๆ ลายน้ำมันไม่เหมือนเสื้อสมัยใหม่ สำหรับผม มันสวยกว่าเยอะ มันน่าเก็บกว่า
“วิธีการที่ผมเก็บคือ ไล่เก็บไปทีละสปอนเซอร์ ไล่เก็บ BROTHER, THOMAS COOK แต่ของ ETIHAD รุ่นใหม่ ๆ ยังเหลืออีกเยอะครับ”
ภูมิเล่าว่าเขาเริ่มเชียร์ซิตี้มาตั้งแต่ปี 2012 และไล่เก็บสะสมเสื้อมาเกือบจะครบ 10 ปีแล้ว โดยตอนนี้คอลเลคชั่นของเขามีเสื้อแข่งของซิตี้มากกว่า 150 ตัว
“ผมเริ่มเชียร์ตั้งแต่ฤดูกาล 2011/12 ครับ นัดที่เจอกับ QPR เลย แล้วก็ซื้อเสื้อตัวแรกปี 2014, เป็นเสื้อของฤดูกาลนั้นเลย
“ต่อมาผมก็ไปเจอเสื้อของซิตี้ที่ใช้แบรนด์ Kappa, ซึ่งผมชอบแบรนด์นี้อยู่แล้ว จากนั้นก็เริ่มไล่ตามเก็บเสื้อรุ่นเก่า ๆ มาเรื่อย ๆ จนปัจจุบันก็มีมากกว่า 150 ตัวแล้วครับ
“ก่อนหน้านั้นผมก็ไม่เคยสะสมเสื้อฟุตบอลมาก่อน แต่พอเราได้เริ่มแล้ว มันจะติดเครื่องเลย หยุดไม่ได้จริง ๆ ถ้าใครเป็นนักสะสมจะเข้าใจดี”
สิ่งหนึ่งที่เป็นของคู่กันกับเสื้อฟุตบอล คือ ‘เสื้อผิดลิขสิทธิ์’ ซึ่งสำหรับเสื้อรุ่นเก่า ๆ นั้นภูมิบอกว่ามองได้ไม่ยาก, โดยเขาเล่าว่า: “เสื้อทุกตัวของผมเป็นเสื้อของแท้หมดนะครับ
“แต่ส่วนใหญ่เสื้อเก่า ๆ จะไม่ค่อยมีปลอม เพราะถ้าของปลอมมันจะดูออกเลย ไม่ปลอมเหมือนกับสมัยใหม่ที่ปลอมเหมือนมาก - วัสดุ การตัดเย็บ สมัยก่อนมันจะไม่เหมือนสมัยใหม่ ถ้าของปลอมจะดูออกได้ง่ายมาก
“หรือเสื้อบางรุ่นเราก็ไปหาดูตามอินเตอร์เน็ต ว่าของแท้ของปลอมเป็นยังไง”
จากความชอบกลายมาเป็นอาชีพ, โดยปัจจุบันภูมิเปิดเพจเฟซบุ๊กขายเสื้อผ้ากีฬาและเสื้อวินเทจ ใช้ชื่อว่า We are วินเทจ -เสื้อผ้ามือสอง
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เพจนี้ไม่ได้มีไว้สำหรับขายเสื้อแมนฯ ซิตี้!
“ผมเปิดเพจขายเสื้อผ้ากีฬาก็จริง แต่เวลาประมูลเสื้อกี่ครั้ง ไม่เคยมีเสื้อแมนฯ ซิตี้เลย
“บางทีลูกค้ามาถาม ผมก็ไม่รู้จะตอบยังไง..
“เคยมีคนมาขอเหมาผม ตอนนั้นผมมีอยู่แค่ 60 ตัว เขาขอซื้อ 100,000 บาทผมก็ไม่ขาย, ไม่มีทางขายเลย เพราะมันหายาก จะไปหาใหม่ก็ไม่ได้แล้ว เพราะอย่างบางตัวที่ผมได้มา เราไปตามตื๊อเจ้าของอยู่เป็นปี กว่าเขาจะปล่อยให้เรา”
เสื้อฟุตบอลเก่าในหมู่นักสะสมส่วนใหญ่จะมีมูลค่าตัวละ 1-2 พันบาทขึ้นไป, ขึ้นอยู่กับความสวยงาม, ความเก่า และความต้องการของเสื้อรุ่นนั้น ๆ
ซึ่งนอกจากปัจจัยที่กล่าวไปแล้ว เรื่องราวของเสื้อแข่งในฤดูกาลนั้น ๆ ก็เป็นสิ่งที่เพิ่มมูลค่าของเสื้อด้วยเช่นกัน
“แต่ก่อนราคาไม่สูงเท่าตอนนี้ครับ แต่ก่อน 1-2 พันก็ซื้อได้แล้ว แต่เดี๋ยวนี้ราคาสูงมาก เสื้อเก่าตัวนึงก็ต้องมี 5-6 พัน ราคามันสูงขึ้นเรื่อย ๆ บางตัวถ้ายิ่งเก่าก็จะยิ่งแพงครับ ของผมเก่าสุดก็น่าจะเป็นเสื้อจากปี 1986
“มีบางตัวที่ผมอยากได้มาก เท่าไหร่ผมก็เอา ยิ่งชุดเยือนชุดที่ 3 ยิ่งหายาก
“เสื้อแต่ละตัวก็จะมีสตอรี่ของมัน บางตัวราคาเหยียบหลักหมื่น สองหมื่นก็มี, อย่างเสื้อรุ่นที่พี่น้องกัลลาเกอร์ใส่
“อย่าง 2 ตัวนี้เป็นเสื้อของปีที่เราตกชั้นและเลื่อนชั้น
“ถ้าเป็นเสื้อของผู้รักษาประตูก็จะยิ่งหายาก, ของผมมีสกรีน [แคสเปอร์] ชไมเคิ่ล ซึ่งคุณพ่อของเขาก็เคยเล่นกับซิตี้ด้วย
“แล้วก็มีรุ่นจากฤดูกาลที่ได้แชมป์พรีเมียร์ลีกครั้งแรก หายากมาก เพราะมีสกรีนสีทองเลข 12, รุ่นฉลองแชมป์
“ตอนนี้ทั้งหมดที่ผมมี ถ้าถามว่ามูลค่าเท่าไหร่ ผมไม่รู้เลยครับ มันมีมูลค่าทางใจมากกว่า”
จากระยะเวลาเกือบ 10 ปี และเสื้อบอลมากกว่า 150 ตัวที่ภูมิได้สะสมเสื้อฟุตบอลมา เขาทำมันด้วยเหตุผลเพียงอย่างเดียวเท่านั้น นั่นคือ ‘ความสุข’
“หัวใจหลักของการสะสมคือความสุขล้วน ๆ เลยครับ
“ผมภูมิใจนะ, นาน ๆ ที เวลาผมจะเอาออกมาดู เอาออกมาเรียง, อย่างเมื่อวานผมเอาออกมา โอ้โห... มันมีความสุขมากเลย”
แฟน ๆ สามารถติดตามภูมิได้ที่เฟซบุ๊กส่วนตัวของเจ้าตัว ITsarapong Yotha
อีกทั้งคุณยังสามารถติดตามคอลัมน์ CITYZENS STORY ของเรา, ที่จะนำเสนอเรื่องราวที่น่าสนใจของซิติเซ่นส์ชาวไทย ได้ทางเว็ปไซต์ th.mancity.com และ Man City App แอปพลิเคชั่นอย่างเป็นทางการของเรา