แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โชว์ฟอร์มได้อย่างน่าทึ่งในการบุกไปเอาชนะไบรท์ตัน 4-1 ณ เอเม็กซ์ สเตเดียม ขยับขึ้นไปเป็นอันดับสองในตารางพรีเมียร์ลีก

ซิตี้เก็บชัยชนะได้ 9 นัดจาก 12 เกมหลังสุดในทุกรายการ โดยเอาชนะไบรท์ตัน 4-1 ขยับขึ้นเป็นอันดับสองในตารางพรีเมียร์ลีก

ประตูในครึ่งแรกจากอิลคาย กุนโดกัน และอีกสองประตูจากฟิล โฟเด้น ทำให้ซิตี้เป็นฝ่ายครองเกมได้ทั้งหมด

ซิตี้มาเสียจุดโทษจากอเล็กซิส แม็คอัลลิสเตอร์ ในช่วง 10 นาทีสุดท้ายก่อนหมดเวลา แต่ริยาด มาห์เรซ ที่ลงมาเป็นสำรอง ก็ซัดประตูปิดกล่องได้ในช่วงท้าย

เกิดอะไรขึ้นบ้าง

เริ่มเกมที่เอเม็กซ์ สเตเดียม ทัพเรือใบทักทายตั้งแต่ 7 นาทีแรก เจา กันเซโล่ รับบอลก่อนป้ายออกทางซ้าย แจ็ค กรีลิช จ่ายบอลย้อนคืนมาที่ฟูลแบ็กทีมชาติโปรตุเกส ได้ตะบันตรงเส้นกรอบเขตโทษ บอลพุ่งเรียดหวิดเสียบเสาแรก ทว่ายังติดมือ โรเบิร์ต ซานเชซ ปัดออกหลังไปได้

ซิตี้เดินเครื่องต่อเนื่อง อิลคาย กุนโดกัน แทงบอลเร็วไปที่ กาเบรียล เฆซุส หลุดเข้าเขตโทษด้านขวาโยกหลอกแข้งเจ้าบ้าน พร้อมยิงแหวกนายทวารคู่แข่ง บอลกำลังจะซุกตาข่าย แต่ ลูอิส ดังค์ ถอยมาเคลียร์จากเส้นประตูทันเวลา และบอลยังไม่ข้ามเส้น

GET 20% OFF OUR THIRD KIT AND MDCR RANGE

แต่แล้วอีกสองนาที ฟิล โฟเด้น ยิงบอลเต็มแรงไปชนแนวรับเจ้าถิ่น โรเบิร์ต ซานเชซ เทคตัวจะเก็บบอล ทว่ามี กาเบรียล เฆซุส เบียดแย่งจนเสียจังหวะ แบร์นานโด้ ซิลวา หันหลังตวัดบอลระยะ 6 หลา ก่อนเป็น อิลคาย กุนโดกัน จิ้มจ่อๆ ในระยะเผาขน แม้ผู้เล่นเจ้าถิ่นจะประท้วง แต่เควิน เฟรนด์ เช็ค VAR แล้วไม่มีอะไรเปลี่ยน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้เฮก่อน 1-0

เข้า 20 นาที ฟิล โฟเด้น จ่ายบอลไปที่ แจ็ค กรีลิช หาเหลี่ยมซัดในเขตโทษด้านซ้าย บอลโดนเกมรับเจ้าบ้านขวางกระฉอกมาหา กาเบรียล เฆซุส ทางขวาจับบอลแล้วยิงเร็ว แต่เจอ โรเบิร์ต ซานเชซ ทิ้งตัวเซฟได้อีกครั้ง

อีกเพียง 8 นาทีต่อมา แบร์นานโด้ ซิลวา ไหลบอลจากวงกลมกลางสนามทิ้งไปให้ แจ็ค กรีลิช สอดหลุดกับดักล้ำหน้า ก่อนจิ้มบอลในเขตโทษออกมาที่ ฟิล โฟเด้น ที่วิ่งตีคู่ด้านกราบขวามา กระทุ้งบอลเข้าไปเป็นสกอร์พาให้ทีมเยือน ทิ้งห่างเป็น 2-0

แชมป์เก่าพรีเมียร์ลีก มาหนีไปเป็น 3-0 ในนาทีที่ 31 กาเบรียล เฆซุส แตะบอลหลบแข้งเจ้าบ้านหน้ากรอบเขตโทษ ทิ่มบอลเรียด แจ็ค กรีลิช หวดทางเสาแรกโดน โรเบิร์ต ซานเชซ แหย่เท้าป้องกันไว้ ทว่าบอลกลับเป็นใจให้ กาเบรียล เฆซุส ซัดแฉลบ ฟิล โฟเด้น บอลปลิ้นชนตัวนายด่านเจ้าถิ่นซุกตาข่ายทางซ้ายเข้าไปอีก

WATCH: Short Highlights: Brighton 1-4 City

ท้ายครึ่งแรกนาทีที่ 43 ยาคุบ โมลเดอร์ ส่งบอลเข้ากลาง โซโลมอน มาร์ช ส่องไกล 25 หลาบอลแรงทำ เอแดร์สัน โมราเอส รับหลุดมือยังดีบอลไม่ตรงกรอบเจ้าตัวตามเก็บทัน ส่วนฝั่งเรือใบ ฟิล โฟเด้น สบโอกาสยิงแต่ถูกมือกาวนกนางนวลเหินตัวรับ หมด 45 นาที แมนฯ ซิตี้ นำสบาย 3-0

ครึ่งหลังนาทีที่ 55 เลอันโดร ทรอสซาร์ หยอดบอลริมกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายข้ามมาให้ ปาสกาล กรอสส์ เกี่ยวบอลลงแล้วหมุนตัวยิง บอลตรงตัว เอแดร์ซอน โมราเอส อยู่ถูกที่ย่อตัวตะครุบ 

เลอันโดร ทรอสซาร์ ลองส่องนอกกรอบอีกครั้ง ทว่าบอลยังไม่สำเร็จผล นายทวารเรือใบยืนไม่เหม่อป้องกันช่วยทีมได้อีกครั้งสามนาทีถัดมา 

เจ้าถิ่นน่าตีตื้น อีน็อค เอ็มเวปู จ่ายบอลสั้น ยาคุบ โมลเดอร์ ป้ายเรียดเร็วมาที่ เลอันโดร ทรอสซาร์ ตะบันเต็มเหนี่ยวทางซ้ายในเขตโทษ นายทวารทีมเยือนล้มตัวเคลียร์ บอลลอดแขน แต่ยังลอยออกหลังไป นาทีที่ 61

ช่วงท้ายเกมนาทีที่ 79 อดัม ลัลลาน่า ไหลบอลฝากไปที่ ยาคุบ โมลเดอร์ จ่ายยัดเสี่ยงเข้าเขตโทษ อีน็อค เอ็มเวปู ปรี่มาถูก เอแดร์สัน เท้าล้มไป กรรมการชี้จุดโทษ อเล็กซิส แม็ค อลิสเตอร์ ตัวสำรองสังหารติดมือนายด่านคู่แข่งแต่น้ำหนักบอลทำซุกตาข่ายอยู่ดี เจ้าบ้าน ไล่มา 1-3    

เรือใบเกือบบวกสกอร์เพิ่มนาทีที่ 90 เมื่อ เควิน เดอ บรอยน์ แทงบอลทะลุแนวรับเจ้าถิ่น ก่อนที่ ฟิล โฟเด้น แตะบอลเข้าระยะ 6 หลา ซัดหวังทำแฮตทริก แต่โดน โรเบิร์ต ซานเชซ ออกมาบล็อกขัดขวางสตาร์ทีมเยือน 

แต่จนแล้วจนรอด ริยาด มาห์เรซ ที่ลงมาเป็นตัวสำรอง จัดการประตูที่ 4 ในช่วงก่อนหมดเวลาไปได้ ปิดแมตช์ จบเกม แมนฯ ซิตี้ บุกชนะ ไบรท์ตัน 4-1 ขยับรั้งรองจ่าฝูง กดดัน ลิเวอร์พูล จำเป็นต้องชนะเกมแดงเดือดกับ แมนฯยู เท่านั้น ถึงทวงตำแหน่งคืนได้ 

ไลน์-อัพ

ไบรท์ตัน

XI: โรเบิร์ต ซานเชซ,โจเอล เวลท์แมน,ลูอิส ดังค์,แดน เบิร์น (ทาริก แลมป์ตีย์ น.57),มาร์ค คูคูเรลล่า,ปาสกาล กรอสส์ (อเล็กซิส แม็ค อลิสเตอร์ น.72),ยาคุบ โมลเดอร์,อดัม ลัลลาน่า,โซโลมอน มาร์ช,เลอันโดร ทรอสซาร์,นีล โมเปย์ (อีน็อค เอ็มเวปู น.58)

สำรอง: สตีล, แลมป์ตีย์, เว็บสเตอร์, คอนนอลลี่, บิสซูม่า, แม็ค อลิสเตอร์, เอ็มเวปู, ดัฟฟี่, ริชาร์ดส์

แมนฯ ซิตี้

XI: เอแดร์สัน โมราเอส,ไคล์ วอล์คเกอร์,รูเบน ดิอาส,อายเมอริก ลาปอร์กต์,เจา กันเซโล่,แบร์นานโด้ ซิลวา,โรดริโก้,อิลคาย กุนโดกัน (แฟร์นันดินโญ่ น.74),กาเบรียล เฆซุส (ริยาด มาห์เรซ น.87),แจ็ค กรีลิช (เควิน เดอ บรอยน์ น.77),ฟิล โฟเด้น

สำรอง: สเตฟเฟ่น, สโตนส์, อาเก้, ซินเชนโก้, เดอ บรอยน์, แฟร์นันดินโญ่, มาห์เรซ, เอโดซี่ , พาลเมอร์

สถิติที่โดดเด่น

การลงเล่นในครึ่งหลังของเควิน เดอ บรอยน์ ในฐานะตัวสำรอง คือนัดที่ 272 ของเขาให้กับซิตี้ในทุกรายการ ทำให้เขาก้าวขึ้นไปอยู่ใน 50 อันดับแรกของผู้เล่นที่ลงเล่นให้กับสโมสรมากที่สุด

View on Twitter

หมายความว่าอย่างไร

ชัยชนะนัดนี้ทำให้ซิตี้แซงลิเวอร์พูลและขยับขึ้นเป็นอันดับสอง โดยมีคะแนนนำทีมจากเมอร์ซีย์ไซด์ 2 แต้ม ก่อนที่ทีมของเจอร์เก้น คล็อปป์จะลงทำศึกแดงเดือดในวันอาทิตย์นี้

ตอนนี้เรามี 20 แต้มจาก 9 นัดแรกของเรา หลังจากที่ได้ผ่านช่วงยากลำบากของโปรแกรมมาแล้ว 

ชัยชนะอย่างท่วมท้นของเชลซี 7-0 เหนือนอริชนั่นหมายความว่าพวกเขายังคงเป็นจ่าฝูง นำหน้าเราสองแต้ม และประตูได้เสีย 22 กับ 27 

โปรแกรมถัดไป

ตอนนี้โฟกัสของเราจะเปลี่ยนไปที่ คาราบาว คัพ ด้วยการเดินทางไปลอนดอน สเตเดียม เพื่อพบกับเวสต์แฮม ในวันพุธ

เกมเตะเวลา 01.45 น. สามารถติดตามการอัปเดตทั้งหมดได้ที่ Th.ManCity.com และในแอปอย่างเป็นทางการของสโมสร

News about Brighton v Man City

ไม่ใช่ตัวผมคนเดียว! เป๊ปชี้ การทำงานเป็นทีมนำมาซึ่งความสำเร็จ

เป๊ป กวาดิโอล่าเปิดเผยว่า "การทำงานเป็นทีม" คือปัจจัยสำคัญแห่งความสำเร็จของสโมสร Read more

กุนโดกัน: ความยืดหยุ่นและขนาดทีมของซิตี้นั้นยอดเยี่ยมมาก

อิลคาย กุนโดกัน ยกย่องทีมที่ 'ยอดเยี่ยม' และความยืดหยุ่นของทีม ว่าเป็นลักษณะสำคัญของความสำเร็จ Read more

ไฮไลท์ประตู: ไบรท์ตัน 1-4 แมนฯ ซิตี้

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกถล่มไบรท์ตัน 4-1 เก็บชัยต่อเนื่องในพรีเมียร์ลีก นัดที่ 9 Watch more

กวาดิโอล่า: โฟเด้นจะเล่นตรงไหนไม่สำคัญ

เป๊ป กวาดิโอล่า ยกย่องผลงานที่น่าประทับใจอีกเกมของฟิล โฟเด้น หลังจากที่ซิตี้เอาชนะไบรท์ตัน 4-1 โดยยืนยันว่า 'ไม่สำคัญว่าเขาจะได้ลงเล่นในตำแหน่งไหน' Read more

กวาดิโอล่า ชี้บทเรียนสำคัญที่ซิตี้เรียนรู้จากไบรท์ตัน

เป๊ป กวาดิโอล่า กล่าวว่าแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้เรียนรู้บทเรียนล้ำค่าจากผลงานในครึ่งหลังของเรากับไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน Watch more

กวาดิโอล่า: ไบร์ทตันคือทีมที่พิเศษ

เป๊ป กวาดิโอล่ากล่าวชื่นชมไบร์ทตันในการแถลงข่าวก่อนเกม ก่อนที่จะมีคิวพบกันคืนวันเสาร์นี้ Watch more